5 ไอเดียทำการตลาดสำหรับธุรกิจฟิตเนสให้เติบโตและเป็นที่รู้จัก

5 ไอเดียทำการตลาดสำหรับธุรกิจฟิตเนสให้เติบโตและเป็นที่รู้จัก

ขณะนี้สถานการณ์ COVID-19 ได้คลี่คลายลงจนผู้รักสุขภาพสามารถกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติที่ฟิตเนสแล้ว ซึ่งจำนวนของลูกค้าก็ได้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปีไหน ๆ เพราะว่าหลายคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่ใช่เพียงแค่ COVID-19 เท่านั้น

ดังนั้นปัจจุบันจึงเป็นยุคของคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง ทำให้เกิดฟิตเนสเปิดใหม่ขึ้นมามากมายไม่เว้นแต่ละวัน รวมถึงยังมีแนวโน้มเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถ้าคุณอยากดึงดูดลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกค้าเก่า มีความโดดเด่นเหนือกว่าฟิตเนสเจ้าอื่น ๆ คุณควรทำการตลาดเพื่อสร้างฟิตเนสของคุณให้เติบโตและเป็นที่รู้จักกว้างขวางในหมู่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ภายในบทความนี้ NBA Sportmanagement ได้รวบรวม 5 ไอเดียของการทำการตลาดที่คุณสามารถนำไปใช้ส่งเสริมพัฒนาฟิตเนสได้เป็นอย่างดี โดยจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง มาติดตามได้เลย

สร้างเว็บไซต์สำหรับฟิตเนสของคุณ

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว เว็บไซต์ เป็นหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่ยังไงก็ขาดไม่ได้ เพราะการมีเว็บไซต์เป็น Hub ส่วนกลางสำหรับฟิตเนสของคุณสามารถช่วยเจาะกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น ครอบคลุมกลุ่มตลาดได้ครบ เพิ่ม Brand Awareness ให้กับฟิตเนสคุณได้ เป็นวิธีการพื้นฐานแต่มีประสิทธิภาพสูง 

เหตุผลเป็นเพราะว่าเว็บไซต์เป็นเปรียบเสมือนหน้าร้านแบบออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ (Potential Customer) ได้มากกว่าการเปิดเป็นหน้าร้านแบบออฟไลน์ให้ลูกค้าเข้ามาติดต่อเอง รวมถึงเป็นสถานที่ที่รวบรวมข้อมูลผลิตภัณฑ์, แผนที่ตั้งฟิตเนส, ช่องทางติดต่อ, สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ ให้ลูกค้าได้เข้ามาศึกษาล่วงหน้าก่อนเข้ามาใช้บริการจริง

และการปรับแต่งเว็บไซต์นั้นมีความยืดหยุ่นสูง คุณสามารถเพิ่มเติมเสริมสิ่งใดก็ได้เข้าไปตามที่คุณต้องการ แต่สิ่งที่เราขอแนะนำให้คุณมีก็คือ Testimonial หรือส่วนของการรีวิวที่ดีจากลูกค้าที่เคยเข้ามาใช้บริการกับคุณเพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและการบริการที่ฟิตเนสคุณสามารถมอบให้กับลูกค้าในอนาคตของคุณ

การสร้างเว็บไซต์สามารถทำได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเองจากโดเมนชื่อดังต่าง ๆ เช่น Wix, WordPress, MakeWebEasy หรือจะเป็นการจ้าง Agency ให้สร้างให้ ซึ่งจะมีความมืออาชีพมากกว่า มีการทำ SEO เพื่อให้ติดอันดับบนหน้าค้นหาบน Google ดังนั้นเราพูดได้เลยว่าเพียงแค่มีเว็บไซต์ก็เหมือนนำคู่แข่งไปแล้วหลายก้าว

ข้อดีของการสร้างเว็บไซต์

  1. สร้าง Brand Awareness ให้ฟิตเนสของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
  2. เป็นสถานที่แจ้งข่าวสาร โปรโมชัน ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของแบรนด์ฟิตเนส
  3. เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร
  4. ลูกค้าสามารถสั่งซื้อโปรแกรมออกกำลังกาย ผลิตภัณฑ์ได้เองผ่านหน้าเว็บไซต์
  5. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ฟิตเนสของคุณ
  6. ถ้าทำ SEO ได้ดีมีประสิทธิภาพ อาจไม่จำเป็นต้องลงเม็ดเงินเพื่อโฆษณาเลย

ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง

การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่นับว่าใช้ได้ผลเป็นอันดับ 1 ในยุคนี้ เพราะลูกค้าแทบทุกคนต้องมีโซเชียลมีเดียเป็นของตัวเองอย่างน้อยคนละ 1 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Twitter, YouTube หรือ Instagram

การตลาดโซเชียลมีเดียมีความเหนือกว่าการทำตลาดแบบออฟไลน์คือการที่คุณสามารถที่จะเก็บข้อมูลได้รอบด้าน เช่น ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า, การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์, ประเภทการออกกำลังกายที่ชื่นชอบ ฯลฯ แล้วนำมาพัฒนาเป็นโปรโมชัน แคมเปญการให้บริการที่มีประสิทธิภาพต่อไป ซึ่งหลังจากที่คุณทำแคมเปญดังกล่าวเสร็จ คุณก็นำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาต่อได้อีกเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จบ

นอกจากนั้น ช่องทางการตลาดโซเชียลยังสามารถลงเม็ดเงินเพื่อใช้ ยิงโฆษณา เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ธุรกิจฟิตเนสเจ้าดัง ๆ ต่างใช้กันทั้งหมดเพื่อดึงดูดฐานลูกค้าใหม่ ๆ และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งส่วนมากแล้วคอนเทนท์ที่จะยิงโฆษณาจะเป็นแนวเสนอขายผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ, เสนอโปรโมชัน, รีวิวผลิตภัณฑ์ (เพื่อ Tie-in สินค้า) หรือประกาศสาขาใหม่ เป็นต้น

ข้อดีของการทำการตลาดโซเชียลมีเดีย

  1. เริ่มต้นได้ง่าย เพียงเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการและสร้าง Business Page
  2. เป็นช่องทางการติดต่อที่สะดวก สามารถตอบกลับได้ทันที
  3. เพิ่ม Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย
  4. เป็นช่องทางการเผยแพร่คอนเทนท์เพื่อสื่อสาร ประกาศให้กับลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ
  5. เพิ่มช่องทางการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดต่อในอนาคต
  6. ใช้ฟังก์ชันการยิงโฆษณาเพื่อ Optimize ทำการตลาด

ให้ Influencer โปรโมตฟิตเนสให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

เมื่อธุรกิจฟิตเนสคุณโตขึ้นจนกลยุทธ์เดียวอาจจะไม่เพียงพอ การจ้าง Influencer ให้โปรโมทฟิตเนสก็เป็นไอเดียที่ดี โดย Influencer นั้นเป็นผู้ที่สามารถสร้างกระแส, แนวโน้มให้กลุ่มเป้าหมายคล้อยตามจนทำให้เกิดการซื้อผลิตภัณฑ์ (Conversion) ทำให้ Influencer Marketing กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการทำการตลาดในยุคออนไลน์นี้ไปโดยปริยาย

ภาพจาก ananda

Influencer ที่พูดถึงนั้นควรจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง, มียอดการติดตามพอสมควรเพื่อที่จะสามารถส่งสารให้เข้าถึงได้กว้างขวางมากที่สุด ดังนั้นแผนการเลือก Influencer ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดหากคุณต้องการใช้กลยุทธ์นี้ เช่น ผู้ที่มีรูปร่างดี มีความรู้ในแวดวงด้านสุขภาพ, เทรนด์ออกกำลังกาย หรือกระทั่งผู้มีชื่อเสียงที่ดูแลสุขภาพรูปร่างของตัวเองอยู่เสมอ 

*ข้อควรระวัง Influencer ที่เลือกไม่ควรตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนั้นเพื่อเลี่ยงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับแบรนด์ของคุณในอนาคต รวมถึงไม่ควรเป็นคนที่แบรนด์คู่แข่งเลือกใช้ไปแล้วในแคมเปญที่ผ่าน ๆ มา

สิ่งที่คุณสามารถแนะนำให้ Influencer ทำได้มีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์เพื่อนำไปทำเป็น Customer Testimonial, ถ่าย Photoshoot เพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์, หรือโพสต์ให้คำแนะนำฟิตเนสที่ชื่นชอบ, ประกาศโปรโมชัน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ

ข้อดีของการทำ Influencer Marketing

  1. เพิ่มความน่าเชื่อถือ (Social Proof) ให้กับแบรนด์, ผลิตภัณฑ์
  2. เพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี
  3. สร้างยอดแชร์ได้สูง (ในกรณีที่มีผู้ติดตามเยอะ)
  4. เพิ่ม Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จัก
  5. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ง่าย

Referral Program เพื่อนแนะนำเพื่อนมีชัยไปกว่าครึ่ง

Referral Program เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ถือว่า Win-win กันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านลูกค้าที่บอกต่อแล้วได้สิทธิประโยชน์ หรือกับเจ้าของธุรกิจที่ได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม ซึ่งงานวิจัยของ McKinsey ได้อ้างอิงเอาไว้ว่า กลยุทธ์การบอกต่อ Referral Program ช่วยเพิ่มการตัดสินใจซื้อได้ 50% และกว่า 92% นั้นเชื่อสิ่งที่คนใกล้ตัวแนะนำ

ภาพจาก referralmarketingschool

การทำ Referral Program ภายในฟิตเนสสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ มีตัวอย่างดังนี้

  1. ลูกค้าปัจจุบันแนะนำลูกค้าใหม่จะได้รับส่วนลด 5% สำหรับค่าสมัครสมาชิกฟิตเนสรายเดือนถัดไป หรือสามารถเลือกเป็นส่วนลดเทรนเนอร์ก็ได้
  2. ลูกค้าปัจจุบันแนะนำลูกค้าใหม่ครบ 10 คน ได้สิทธิ์เข้าใช้บริการฟิตเนสได้ฟรี 1-3 เดือนเต็ม
  3. ลูกค้าใหม่ไม่เกิน 3 เดือนแนะนำลูกค้าใหม่รับส่วนลดโปรแกรมออกกำลังกาย
  4. แนะนำลูกค้าใหม่ ให้เงินสดรายละ 500-1000 บาท
  5. มีช่องกรอก Referral Code เพื่อลดราคาผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าใหม่ ส่วนลูกค้าเก่าได้เครดิตนำไปแลกสิ่งของได้ เช่น กระเป๋าเป้, แก้ว Shaker, ถุงมือ Weight Training

ข้อดีของการทำ Referral Program

  1. เพิ่มฐานลูกค้า
  2. เป็นหนึ่งในการสร้าง Testimonial ที่ดีให้กับแบรนด์
  3. เพิ่ม Brand Awareness
  4. เพิ่มยอดขาย
  5. เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างคอมมูนิตี้ภายในฟิตเนส

จัดโปรโมชันดึงดูดลูกค้า

โปรโมชันเป็นสิ่งสำคัญที่อยู่คู่กับธุรกิจฟิตเนสมาตลอด อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุด รวมถึงเป็นวิธีที่ช่วยจูงใจลูกค้ารายใหม่ให้เข้ามาใช้บริการฟิตเนส และส่งเสริมความพึงพอใจของลูกค้าเดิม รวมถึงเพิ่มโอกาสเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็น Loyal Customer ต่อไปได้

เมื่อพูดถึงโปรโมชันแล้ว ราคา ถือว่าเป็นปัจจัยที่ลูกค้านำมาพิจารณาก่อนเลือกซื้อมากที่สุด โดยหลักการตั้งราคานั้นคุณควรจะพิจารณาจากสถานที่ตั้งฟิตเนสของคุณ, คุณภาพของเครื่องออกกำลังกายที่คุณมีในฟิตเนส, กำลังซื้อของลูกค้า ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องทำการเก็บข้อมูลเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งการตั้งราคาเบื้องต้นสามารถอ้างอิงได้ดังนี้

ภาพจาก invideo
  • ราคาแพคเกจ Beginner ประมาณ 1,390/เดือน และค่อย ๆ เสนอขายแพคเกจที่สูงขึ้นตามลำดับ
  • ราคาแพคเกจแบบ Full Access ประมาณ 4,990 บาท/เดือน
  • ราคาแพคเกจออกกำลังกายเบื้องต้นที่บ้าน ประมาณ 1,490 บาท/เดือน
  • อาจจะมีแพคเกจ Add-on เพิ่มเช่น คลาส HIIT, โยคะ แพคเกจละ 249 บาท

ซึ่งก่อนที่คุณจะทำโปรโมชัน คุณควรจะต้องพิจารณาถึงช่วงเวลาที่จะปล่อยโปรโมชันอีกด้วย เช่น เทศกาลหลังปีใหม่, ปล่อยช่วงหน้าร้อน รวมถึงทำการเก็บข้อมูลว่าลูกค้าชอบการออกกำลังกายแบบใดมากที่สุด, เครื่องออกกำลังกายที่นิยมในฟิตเนส และสุดท้ายคือการสื่อสารให้ลูกค้าทราบอย่างทั่วถึง

โปรโมชันภายในฟิตเนสมีอยู่มากมาย ตัวอย่างมีดังนี้

  1. สมัครสมาชิกแบบ Bundle (ซื้อ 3, 6, 12 เดือน) เพื่อรับส่วนลดที่คุ้มค่ากว่า
  2. ทำแคมเปญร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อแจกส่วนลด, ผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองของแบรนด์ เช่น เวย์โปรตีน, ครีเอทีน
  3. โปรโมชันประจำปี, เทศกาล เช่น New Year New You, Summer of Gain ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
  4. เสนอคอร์สเรียนออกกำลังกายเบื้องต้นให้ฟรี เมื่อเรียนจบจะมีโปรโมชันลด 50% ในคอร์สถัดไป
  5. โปรโมชัน Fitness Your Lifestyle เลือกออกกำลังกายตามวันที่ต้องการ
  6. Flash Sale ลูกค้าที่ซื้อแพคเกจออกกำลังกาย 20 คนแรก ได้รับส่วนลดบริการเทรนเนอร์ฟรี 7 วันพ่วงกับแพคเกจหลัก
  7. โปรโมชันเลือกเฉพาะเครื่องออกกำลังกายที่ต้องการใช้งาน ลดราคาพิเศษ 5-10%
  8. สมัครแพคเกจ A พร้อมกับเทรนเนอร์เพื่อรับส่วนลดมากกว่าเดิม
  9. โปรโมชัน Super Sale กระตุ้นยอดขาย เพิ่มจำนวนลูกค้า 

สรุป

ไอเดียการตลาดทั้ง 5 ที่เราได้นำมาให้วันนี้เป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยผลักดันธุรกิจฟิตเนสคุณไปสู่อีกระดับได้อย่างแน่นอน ซึ่งนอกเหนือจากการทำการตลาดแล้ว สิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรละเลยคือการมอบคุณภาพและการบริการที่ดีให้กับลูกค้าคุณเสมอ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของคุณมีความยั่งยืนอย่างแท้จริง

หากคุณต้องการวิธีการเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้กับธุรกิจฟิตเนสของคุณเหมือนกับกลยุทธ์การตลาดนี้ คุณสามารถปรึกษากับ NBA Sportmanagement ผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมธุรกิจฟิตเนส เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำในการเปิดฟิตเนสแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านการเลือกพื้นที่ การจัดสรรงบประมาณ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน พร้อมจัดจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายคุณภาพระดับโลก เริ่มปรึกษาฟรี กับเราได้เลย

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!