Office Syndrome เป็นอาการที่คนรุ่นใหม่ส่วนมากมักจะประสบกันหลายคน เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไป คนหันมา Work from Home กันมากขึ้น และไม่ค่อยมีการขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย มีแต่การจ้องหน้าจอคอมต่อเนื่องวันละ 7-8 ชั่วโมง
เมื่อทำไปนาน ๆ ร่างกายก็เกิดอ่อนแรงจนเกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วนในร่างกาย ถึงแม้บางรายอาจหาวิธีแก้ไขด้วยการนวดแต่ก็หายไม่ขาด กลับมาเป็นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีอาการเรื้อรังมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าปล่อยเอาไว้นาน ๆ อาจทำให้เกิดโรคร้ายที่รุนแรงกว่าเดิมได้
ดังนั้นในบทความนี้ NBA Sportmanagement จะพามารู้จักกับอาการ Office Syndrome นี้ให้ดียิ่งขึ้น ว่ามีสาเหตุเกิดมาจากอะไร มีอาการอะไรบ้าง สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการอย่างไร รับรองได้เลยว่าจะเป็นวิธีแก้ไขระยะยาวที่ดีให้กับคุณได้อย่างแน่นอน มาเริ่มกันได้เลย
Office Syndrome คืออาการอักเสบของกล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วนในร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อคอ ไหล่ และหลัง สาเหตุของอาการ Office Syndrome เกิดมาจากการใช้กลุ่มกล้ามเนื้อส่วนดังกล่าวเป็นเวลานานและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำงานหน้าคอมในออฟฟิศด้วยลักษณะท่าทางผิด ๆ เช่น ห่อไหล่ หลังค่อม นั่งตัวไม่ตรง หรือการจ้องหน้าจอคอมมากเกินไป
พฤติกรรมดังกล่าวนี้ เมื่อปฏิบัติไปนาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อหดตัวและอ่อนแรงลง จนร่างกายต้องอาศัยกลุ่มกล้ามเนื้ออื่น ๆ เพื่อมาช่วยรองรับพฤติกรรมท่าทางเหล่านี้เพิ่มเติม ซึ่งก็เป็นการส่งแรงกดทับต่อไปจนทำให้เกิดอาการปวดในกลุ่มกล้ามเนื้อเหล่านี้เมื่อระยะเวลาผ่านไปนาน ๆ
และไม่เพียงแต่ท่าทางผิด ๆ เท่านั้น ที่ทำให้เกิด Office Syndrome แต่ยังมีปัจจัยอย่างอุปกรณ์ในออฟฟิศไม่รองรับสรีระร่างกาย Ergonomics , อาการเครียดสะสม, นอนหลับไม่เพียงพอ, ร่างกายไม่สมดุล หรือกระดูกสันหลังผิดรูป ก็มีผลทำให้เกิด Office Syndrome ได้เช่นเดียวกัน
อาการของ Office Syndrome ส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับอาการปวดกล้ามเนื้อ, อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งอาการ Office Syndrome ที่มักจะเจอส่วนใหญ่มีดังนี้
หรือพูดง่าย ๆ คืออาการเจ็บปวดเรื้อรัง ในภาวะนี้ การกดทับในบริเวณที่กล้ามเนื้ออ่อนแรงจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดสูง เช่น คอ ไหล่ และสะบัก
อาการเส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับจนทำให้เกิดอาการเจ็บปวด อาการชาร้าวไปสู่ข้อมือและแขน โดยอาการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาท Median หนึ่งในเส้นประสาทหลักของมือถูกกดทับ ใช้งานอย่างต่อเนื่อง
อาการนิ้วล็อคคือการที่นิ้วมือเกิดอาการปวด ตึง รู้สึกเหมือนนิ้วล็อคตลอดเวลาเมื่อจับสิ่งของ หรือยืดนิ้วออก นิ้วที่ได้รับผลกระทบบ่อยที่สุดคือนิ้วนางและนิ้วหัวแม่มือ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในนิ้วอื่นเช่นกัน
เอ็นอักเสบเป็นอาการปวด บวม ไม่สามารถขยับอวัยวะที่เกี่ยวข้องได้เต็มที่ ส่วนมากแล้วจะเกิดขึ้นในบริเวณข้อศอก ข้อมือ นิ้ว น่อง รวมถึงส่วนอื่น ๆ ในร่างกายก็สามารถเป็นได้เช่นเดียวกัน
ด้วยปัจจัยของการยืน-นั่งหลังค่อม ห่อไหล่ นั่งไม่ชิดพนักพิงเก้าอี้ ทำให้เกิดอาการปวดหลัง ซึ่งถ้าปล่อยนาน ๆ จะทำให้กลายเป็นโรคปวดหลังเรื้อรังในอนาคต
เป็นอาการบาดเจ็บที่เข่า ซึ่งเกิดจากการที่ลูกสะบ้า Patella เคลื่อนออกจากร่องของกระดูกต้นขา และไปเสียดสีกับกระดูกต้นขา จนเกิดอาการปวดที่เข่า
อีกหนึ่งโรคที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าจะเกิดได้กับ โรคกะเพาะอาหาร เพราะคนที่มีแนวโน้มมีอาการ Office Syndrome มักจะมีพฤติกรรมรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา เนื่องจากความเครียดจากงาน ซึ่งคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารมักจะมีอาการปวดเสียด รู้สึกคลื่นไส้ ปวดช่องท้องอยู่บ่อย ๆ
ลักษณะสรีระการทำงานในบริษัทที่ดีควรมีดังนี้
คุณควรเปลี่ยนท่านั่งทุก ๆ 1-2 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหดตัวจากการนั่งท่าเดิมนาน ๆ โดยการเปลี่ยนท่านั่งสามารถทำแบบใดก็ได้แต่ควรหลีกเลี่ยงการนั่งชิดขอบเก้าอี้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และนอกเหนือจากการปรับท่านั่ง ในระหว่างวันแนะนำให้คุณพักสายตาสั้น ๆ หรือออกไปยืดเส้นยืดสายด้วยการออกไปเดินสักเล็กน้อยจะเป็นการดีอย่างมาก
แน่นอนว่าวิธีการลดอาการ Office Syndrome อันดับ 1 คงไม่พ้นการออกกำลังกาย ซึ่งนอกเหนือจากจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปรับบุคลิกภาพให้ดูดี มีลักษณะตรงที่จะช่วยลดพฤติกรรมนั่งหลังค่อม หรือการห่อไหล่ขณะทำงาน
การออกกำลังกายที่แนะนำสำหรับการลดอาการ Office Syndrome สามารถทำได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการคาร์ดิโอผ่านการวิ่ง (วิ่งนอกบ้าน, วิ่งด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า) การยกเวทกระตุ้นกล้ามเนื้อก็สามารถช่วยทำให้กล้ามเนื้อหายตึง และสุดท้ายคือการออกกำลังกายด้วยท่ายืดเหยียดประเภท Warm Up หรือ Cooldown ก็เป็นการออกกำลังกายที่เข้าช่วยลดอาการ Office Syndrome ได้โดยตรง
[คุณสามารถดูลักษณะท่า Cooldown เพื่อนำมาบริหารลดอาการ Office Syndrome ได้ที่ บทความนี้]
การเล่นโทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ตมากเกินไปก็มีผลทำให้เกิดอาการ Office Syndrome ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการเล่นช่วงก่อนนอนที่จะทำให้สายตาเสีย, นอนไม่หลับ, นอนได้ไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึงทำให้ปวดกล้ามเนื้อส่วนคอ, หัวไหล่ตามมาได้
เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดีที่สุด คุณควรนอนหลับพักผ่อนขั้นต่ำ 7 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ Growth Hormones ถูกหลั่งออกมาให้ได้มากที่สุด และควรดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และดื่มน้ำให้เพียงพออยู่เสมอ
แค่ขยับ เท่ากับออกกำลังกาย ดังนั้นเราอยากให้คุณมีนิสัยในการขยับร่างกายเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น การล้างจาน การทำความสะอาดบ้าน หรือเล่นเกมที่ต้องใช้ร่างกายเป็นหลัก เช่น Just Dance, Ring Fit Adventures เป็นต้น
แต่สำหรับใครที่อยู่บ้านและต้องการอยากจะขยับร่างกายอยู่ตลอดเวลา ตัวช่วยดี ๆ อย่าง ลู่วิ่งไฟฟ้า สามารถช่วยคุณได้เป็นอย่างดี เพราะคุณจะสามารถวิ่งออกกำลังกายพร้อม ๆ กับการทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ดูซีรีส์, ฟังเพลง, พูดคุยกับคนในบ้านได้ในทีเดียว นับว่าเป็นตัวช่วยสุดคุ้ม ลดอาการ Office Syndrome ได้ในตัว
Maxnum Home Plus TD151 ลู่วิ่งไฟฟ้าคุณภาพเกรดยุโรปที่ออกแบบมาเพื่อ Home Gym ใช้วิ่งได้สนุก ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการ Office Syndrome ได้เป็นอย่างดี ดีไซน์สวยงาม สเปคภายในครบครัน แต่ราคาพิเศษเพียงแค่ 29,990 บาทเท่านั้น สเปคมีดังนี้
- มอเตอร์ DC เกรดฟิตเนส ความเร็วสูงสุด 4 HP
- ปรับระดับความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ปรับระดับความชันได้ 20 ระดับ
- ขนาดสายพานกว้างถึง 50 x 148 ซม.
- รองรับน้ำหนักผู้ใช้สูงสุด 150 กิโลกรัม
- โปรแกรมออกกำลังกายกว่า 12 โปรแกรม
- หน้าจอแสดงผล LCD มีระบบวัดไขมันในร่างกาย
ถ้าคุณสนใจสามารถสั่งซื้อ Maxnum Home Plus TD151 ได้เลยตอนนี้ ก่อนของจะหมด!
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ