ปัญหา "พุง" หรือไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง คงเป็นเรื่องที่กวนใจใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้ชายหรือคุณผู้หญิง เพราะนอกจากจะทำให้ขาดความมั่นใจในการแต่งตัวแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าการลดพุงเป็นเรื่องยาก ต้องเข้าฟิตเนสหรือต้องมีอุปกรณ์ออกกำลังกายมากมาย
แต่ความจริงแล้ว เราสามารถเริ่มต้นสร้างหน้าท้องที่แบนราบและแข็งแรงได้ง่ายๆ จากที่บ้านของคุณเอง บทความนี้นี้ NBA Sportmanagement จะมาแนะนำ ท่าออกกำลังกายลดพุง ที่คัดมาแล้วเน้น ๆ ถึง 10 ท่า ทำตามได้จริง เห็นผลได้ชัดเจนหากทำอย่างสม่ำเสมอ เตรียมพื้นที่ที่บ้าน แล้วมาเริ่มฟิตแอนด์เฟิร์มไปพร้อมกันได้เลย
การสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรงและเผาผลาญไขมันส่วนเกินนั้นไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสมอไป การใช้ร่างกายของเราเองเป็นน้ำหนัก หรือที่เรียกว่า Calisthenics ก็เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมและได้ผลดีไม่แพ้กัน มาดูกันเลยว่ามีท่าไหนบ้างที่คุณสามารถเริ่มต้นทำได้ตั้งแต่ตอนนี้
ท่าแพลงก์ถือเป็นราชาแห่งท่าออกกำลังกายแกนกลางลำตัวเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลังส่วนล่าง สะโพก และไหล่ ได้อย่างครอบคลุม แถมยังช่วยปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้นอีกด้วย
วิธีทำท่าแพลก์ :
จำนวนเซต/เวลา: เริ่มต้นที่ 20-30 วินาทีต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30-60 วินาที ค่อยๆ เพิ่มเวลาเมื่อแข็งแรงขึ้น
https://youtu.be/pvIjsG5Svck?si=z9wHp99S4N33AsO1
ท่าครันช์เป็นท่าพื้นฐานที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เหมาะสำหรับการสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง(ซิกแพคผู้ชาย / ผู้หญิง) และกล้ามเนื้อส่วนบนโดยเฉพาะ เป็นท่าที่ทำได้ไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเน้นการใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องในการยกลำตัว ไม่ใช่การใช้คอหรือแรงเหวี่ยง
วิธีทำท่าครันช์ :
จำนวนเซต/เวลา: 15-20 ครั้งต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที
หากครันช์เน้นหน้าท้องส่วนบน ท่าเลกลิฟท์จะเน้นไปที่กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง ซึ่งเป็นส่วนที่หลายคนมักจะมีปัญหาไขมันสะสม การฝึกท่านี้จะช่วยให้หน้าท้องส่วนล่างกระชับขึ้นได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่กำลังต้องการที่จะลดไขมันหน้าท้อง
วิธีทำท่าเลกลิฟท์ :
จำนวนเซต/เวลา: 12-15 ครั้งต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30-45 วินาที
https://youtu.be/zHsPDsYwEWs?si=aBpaitD4alKF_Iwn
ท่านี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง (Obliques) หรือที่เรียกกันว่า "ซิกแพคเลข 11" ในหมู่สาวๆ ช่วยให้เอวดูคอดและมีมิติมากขึ้น เป็นอีกหนึ่ง ท่าออกกำลังกายลดพุง ที่ให้ผลในการสลายไขมันหน้าท้องได้เป็นอย่างดี
วิธีทำท่ารัสเซียนทวิสต์:
จำนวนเซต/เวลา: 20-30 ครั้ง (นับซ้ายขวาเป็น 1) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที
https://youtu.be/DJQGX2J4IVw?si=FRv-6xD7QWWJg7P2
ท่าจักรยานอากาศเป็นท่าที่ผสมผสานการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนบน ส่วนล่าง และด้านข้างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ถือเป็นท่าที่ครบเครื่องและช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีทีเดียว ที่นอกจากจะเป็นท่าออกกำลังกายลดพุงแล้ว ยังช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแฮมสตริงได้ดีอีกด้วย
วิธีทำท่าจักรยานอากาศ :
จำนวนเซต/เวลา: 20-30 ครั้ง (นับซ้ายขวาเป็น 1) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 45 วินาที
https://youtu.be/cbKIDZ_XyjY?si=0yZeC1zHru_KKc1d
ท่านี้เปรียบเสมือนการวิ่งอยู่กับที่ในท่าแพลงก์ เป็นท่าที่ได้ทั้งความแข็งแรงของแกนกลางลำตัวและช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Workout ด้วยท่าออกกำลังกายลดพุง ที่ให้ร่างกายใช้พลังงานแบบเน้น ๆ
วิธีทำท่าเมาน์เทนไคลมเบอร์ :
จำนวนเซต/เวลา: 30-60 วินาทีต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที
https://youtu.be/hq_0YlyfqGM?si=8aCTaQlEUSp4MvDb
มาถึงท่าสุดโหดแต่ได้ผลดีเยี่ยมอย่างเบอร์พีกันบ้าง ท่านี้เป็นการออกกำลังกายแบบ Full-body ที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างรวดเร็ว เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงหน้าท้องด้วย โดยท่าเบอร์พีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดต้นขาให้เล็กลง ภายใน 1 อาทิตย์ ที่หลายคนมักจะหยิบเอาท่าออกกำลังกายนี้ไปใช้ในการ Workout ควบคู่กับการทำ IF (Intermittent Fasting)
วิธีทำท่าเบอร์พี :
จำนวนเซต/เวลา: 10-15 ครั้งต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 60-90 วินาที (ท่านี้ค่อนข้างหนัก)
ท่าเบิร์ด-ด็อก เป็นท่าที่ยอดเยี่ยมที่ Fitness Trainer หลายคนมักจะใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว (Core Stability) และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และยังช่วยลดอาการปวดหลังได้อีกด้วย
วิธีทำท่าเบิร์ด-ด็อก:
จำนวนเซต/เวลา: 10-12 ครั้งต่อข้าง (รวม 20-24 ครั้ง) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที
ชื่อท่าอาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่ท่าเดดบั๊กนี้เป็นอีกหนึ่งท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนลึก เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังอยากหาวิธีลดพุงผู้หญิง เร่งด่วน 3 วัน ด้วยการออกกำลังกาย เผาผลาญไขมันส่วนเกิน
วิธีทำท่าเดดบั๊ก:
จำนวนเซต/เวลา: 10-12 ครั้งต่อข้าง (รวม 20-24 ครั้ง) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที
ปิดท้ายด้วยท่าฟลัทเทอร์คิกส์ ที่เน้นการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างและกล้ามเนื้อสะโพกส่วนหน้า (Hip Flexors) เป็นท่าที่ดูเหมือนง่าย แต่ถ้าทำถูกวิธีจะรู้สึกเกร็งหน้าท้องได้ดีมาก และช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องหรือพุงได้เป็นอย่างดี
วิธีทำท่าฟลัทเทอร์คิกส์ :
จำนวนเซต/เวลา: 30-60 วินาทีต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที
หลังจากได้รู้จัก ท่าออกกำลังกายลดพุง ทั้ง 10 ท่าไปแล้ว คุณสามารถนำท่าเหล่านี้มาจัดเป็นโปรแกรมการออกกำลังกายแบบ Circuit Training ซึ่งเป็นการทำท่าออกกำลังกายหลายๆ ท่าต่อเนื่องกันไปโดยพักระหว่างท่าน้อยที่สุด หรือไม่พักเลย แล้วค่อยพักเมื่อจบรอบ
วิธีนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น และประหยัดเวลาในการออกกำลังกายอีกด้วย ตัวอย่างเช่น คุณอาจเลือก 5-6 ท่าจาก 10 ท่านี้ ทำท่าละ 30-60 วินาที หรือ 10-15 ครั้ง ต่อเนื่องกันไปจนครบทุกท่า แล้วพัก 1-2 นาที จากนั้นทำซ้ำอีก 2-3 รอบ ก็จะได้โปรแกรมการออกกำลังกายที่เข้มข้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีกับร่างกาย
ท่าออกกำลังกายลดพุง ที่เราแนะนำไปนั้นจะเห็นผลชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะการคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง (ซึ่งถ้าคุณมีลู่วิ่งไฟฟ้าที่บ้านก็จะสะดวกมาก) การเดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่และไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะเมื่อไขมันโดยรวมในร่างกายลดลง หน้าท้องที่ผ่านการฝึกฝนด้วยท่าต่างๆ ก็จะเผยให้เห็นความกระชับและสวยงามได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองจัดตารางให้มีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสัปดาห์ละ 3-5 วัน ครั้งละ 30-60 นาที ควบคู่ไปกับการทำท่าออกกำลังกายลดพุง รับรองว่าหุ่นเฟิร์ม สุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน!
หากตอนนี้คุณกำลังมองหาตัวช่วยในการคาร์ดิโอ เพื่อมาเพิ่มพลังการลดไขมันหน้าท้อง ลดพุง ที่ไม่ต้องไปง้อฟิตเนสแพง ๆ เราขอแนะนำ ลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Plus T5 ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับโฮมยิม แต่คุณภาพระดับฟิตเนส จัดเต็มทั้งในเรื่องความทนทาน ดีไซน์ รองรับทุกระดับการฝึก พร้อมโปรแกรม Fat Burn ที่ช่วยให้การทำคาร์ดิโอลดพุงของคุณ เป็นเรื่องสนุกที่ทำได้ทุกวันที่บ้าน
✅ มอเตอร์ AC 4 แรงม้า – แรงพอสำหรับสายฝึกจริงจัง วิ่งต่อเนื่องก็ไม่สะดุด
✅ ความเร็วสูงสุด 22 กม./ชม. | ปรับความชันได้ถึง 15% – ใช้ฝึกได้ตั้งแต่เดินเร็วไปจนถึงการจำลองวิ่งขึ้นเนิน
✅ หน้าจอ LED Dot-Matrix ใช้งานง่าย – มาพร้อม 40 โปรแกรมฝึก + โหมดวัด Body Fat ที่ช่วยติดตามความก้าวหน้าได้จริง
✅ รองรับ Bluetooth – เชื่อมต่อแอปสุขภาพ ฟังเพลง หรือดูวิดีโอไปพร้อมกันได้
✅ พื้นที่วิ่งกว้าง 153 x 55 ซม. | รับน้ำหนักได้ถึง 150 กก. – สบายใจแม้ตัวใหญ่หรือวิ่งเร็ว
✅ มาตรฐาน EN957 – โครงสร้างแน่นหนา มั่นใจทุกก้าว
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย หรือเป็นคนที่มีเป้าหมายชัดในการสร้างกล้ามเนื้อ สร้างซิกแพค Maxnum Plus T5 คือลู่วิ่งไฟฟ้าที่ช่วยให้คุณ “เริ่มต้นได้ง่าย” และเดินทางสู่หุ่นที่คุณฝันไว้ได้จริง สั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Plus+ T5 ในราคาพิเศษ คลิกที่ลิงก์นี้ หรือแอด LINE ID: maxnumfitness หรือคลิก bit.ly/3y9h0tX เพื่อสั่งซื้อได้ทันที
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ