10 ท่าออกกำลังกายลดพุง ปั้นหุ่นเฟิร์ม ทำเองตามได้ ง่าย ๆ ที่บ้าน

ปัญหา "พุง" หรือไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง คงเป็นเรื่องที่กวนใจใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้ชายหรือคุณผู้หญิง เพราะนอกจากจะทำให้ขาดความมั่นใจในการแต่งตัวแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าการลดพุงเป็นเรื่องยาก ต้องเข้าฟิตเนสหรือต้องมีอุปกรณ์ออกกำลังกายมากมาย 

แต่ความจริงแล้ว เราสามารถเริ่มต้นสร้างหน้าท้องที่แบนราบและแข็งแรงได้ง่ายๆ จากที่บ้านของคุณเอง บทความนี้นี้ NBA Sportmanagement จะมาแนะนำ ท่าออกกำลังกายลดพุง ที่คัดมาแล้วเน้น ๆ ถึง 10 ท่า ทำตามได้จริง เห็นผลได้ชัดเจนหากทำอย่างสม่ำเสมอ เตรียมพื้นที่ที่บ้าน แล้วมาเริ่มฟิตแอนด์เฟิร์มไปพร้อมกันได้เลย

แนะนำ 10 ท่าออกกำลังกายลดพุง ทำเองได้ง่าย ไม่ง้ออุปกรณ์

การสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรงและเผาผลาญไขมันส่วนเกินนั้นไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสมอไป การใช้ร่างกายของเราเองเป็นน้ำหนัก หรือที่เรียกว่า Calisthenics ก็เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมและได้ผลดีไม่แพ้กัน มาดูกันเลยว่ามีท่าไหนบ้างที่คุณสามารถเริ่มต้นทำได้ตั้งแต่ตอนนี้

แพลงก์ (Plank)

ท่าแพลงก์ถือเป็นราชาแห่งท่าออกกำลังกายแกนกลางลำตัวเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลังส่วนล่าง สะโพก และไหล่ ได้อย่างครอบคลุม แถมยังช่วยปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้นอีกด้วย

วิธีทำท่าแพลก์ :

  • เริ่มต้นในท่านอนคว่ำ ตั้งศอกทั้งสองข้างลงกับพื้น โดยให้ศอกอยู่ตรงกับแนวหัวไหล่
  • ยกลำตัวขึ้นจากพื้น โดยใช้ปลายเท้าและแขนท่อนล่าง (ตั้งแต่ศอกถึงมือ) เป็นจุดรับน้ำหนัก
  • เกร็งหน้าท้อง สะโพก และต้นขา ให้ลำตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเป็นเส้นตรง ไม่แอ่นหลังหรือยกก้นสูงเกินไป
  • ค้างท่านี้ไว้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือตามเวลาที่กำหนด เคล็ดลับคือให้หายใจเข้าออกเป็นปกติ อย่ากลั้นหายใจ และพยายามรักษาแนวลำตัวให้ตรงอยู่เสมอ

จำนวนเซต/เวลา: เริ่มต้นที่ 20-30 วินาทีต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30-60 วินาที ค่อยๆ เพิ่มเวลาเมื่อแข็งแรงขึ้น

https://youtu.be/pvIjsG5Svck?si=z9wHp99S4N33AsO1 

ครันช์ (Crunches)

ท่าครันช์เป็นท่าพื้นฐานที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เหมาะสำหรับการสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง(ซิกแพคผู้ชาย / ผู้หญิง) และกล้ามเนื้อส่วนบนโดยเฉพาะ เป็นท่าที่ทำได้ไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเน้นการใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องในการยกลำตัว ไม่ใช่การใช้คอหรือแรงเหวี่ยง


วิธีทำท่าครันช์ :

  • นอนหงายราบกับพื้น ชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง ให้ฝ่าเท้าราบกับพื้น มือทั้งสองข้างแตะเบาๆ ที่หลังใบหู หรือวางไขว้กันบนหน้าอก
  • เกร็งหน้าท้องแล้วยกลำตัวส่วนบน (หัวไหล่และแผ่นหลังส่วนบน) ขึ้นจากพื้นเล็กน้อย โดยที่หลังส่วนล่างยังคงแนบอยู่กับพื้น
  • ค้างไว้สักครู่ แล้วค่อยๆ ลดลำตัวลงกลับสู่ท่าเริ่มต้นอย่างช้าๆ

จำนวนเซต/เวลา: 15-20 ครั้งต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที

เลกลิฟท์ (Leg Lifts / Leg Raises)

หากครันช์เน้นหน้าท้องส่วนบน ท่าเลกลิฟท์จะเน้นไปที่กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง ซึ่งเป็นส่วนที่หลายคนมักจะมีปัญหาไขมันสะสม การฝึกท่านี้จะช่วยให้หน้าท้องส่วนล่างกระชับขึ้นได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่กำลังต้องการที่จะลดไขมันหน้าท้อง

วิธีทำท่าเลกลิฟท์ :

  • นอนหงายราบกับพื้น แขนทั้งสองข้างวางแนบข้างลำตัว ฝ่ามือคว่ำลง หรือจะสอดมือไว้ใต้สะโพกเล็กน้อยเพื่อช่วยพยุงหลังส่วนล่าง
  • เหยียดขาตรง เกร็งหน้าท้อง แล้วค่อยๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกันจนตั้งฉากกับพื้น
  • ค่อยๆ ลดขาทั้งสองข้างลงช้าๆ จนเกือบถึงพื้น (แต่ไม่แตะพื้น) แล้วยกขึ้นใหม่ พยายามให้หลังส่วนล่างแนบติดพื้นตลอดเวลา หากรู้สึกว่าหลังแอ่น ให้งอเข่าเล็กน้อยเพื่อลดภาระของหลัง


จำนวนเซต/เวลา: 12-15 ครั้งต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30-45 วินาที

https://youtu.be/zHsPDsYwEWs?si=aBpaitD4alKF_Iwn 

รัสเซียนทวิสต์ (Russian Twists)

ท่านี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง (Obliques) หรือที่เรียกกันว่า "ซิกแพคเลข 11" ในหมู่สาวๆ ช่วยให้เอวดูคอดและมีมิติมากขึ้น เป็นอีกหนึ่ง ท่าออกกำลังกายลดพุง ที่ให้ผลในการสลายไขมันหน้าท้องได้เป็นอย่างดี


วิธีทำท่ารัสเซียนทวิสต์:

  • นั่งชันเข่าขึ้น เท้าลอยจากพื้นเล็กน้อย เอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยจนรู้สึกเกร็งหน้าท้อง หลังตรง
  • ประสานมือไว้ด้านหน้า หรือจะถือขวดน้ำเล็กๆ เพื่อเพิ่มน้ำหนักก็ได้
  • บิดลำตัวไปทางซ้ายและขวาสลับกันช้าๆ โดยพยายามให้สะโพกอยู่นิ่งที่สุด
  • แนะนำให้ควบคุมการเคลื่อนไหวให้ช้าและมั่นคงที่สุด โฟกัสที่การใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้างในการบิดตัว

จำนวนเซต/เวลา: 20-30 ครั้ง (นับซ้ายขวาเป็น 1) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที

https://youtu.be/DJQGX2J4IVw?si=FRv-6xD7QWWJg7P2 

จักรยานอากาศ (Bicycle Crunches)

ท่าจักรยานอากาศเป็นท่าที่ผสมผสานการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนบน ส่วนล่าง และด้านข้างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ถือเป็นท่าที่ครบเครื่องและช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีทีเดียว ที่นอกจากจะเป็นท่าออกกำลังกายลดพุงแล้ว ยังช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแฮมสตริงได้ดีอีกด้วย

วิธีทำท่าจักรยานอากาศ :

  • นอนหงายราบกับพื้น มือแตะเบาๆ ที่หลังใบหู
  • ยกเข่าขวาเข้าหาอก พร้อมกับบิดลำตัวให้ศอกซ้ายเข้าใกล้เข่าขวา ในขณะเดียวกันเหยียดขาซ้ายตรงไปข้างหน้า ลอยเหนือพื้นเล็กน้อย
  • สลับข้าง ทำเหมือนปั่นจักรยาน โดยยกเข่าซ้ายเข้าหาอก พร้อมกับบิดลำตัวให้ศอกขวาเข้าใกล้เข่าซ้าย เหยียดขาขวาตรง
  • ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องพยายามให้ได้มากที่สุด เพราะท่าจักรยานอากาศใช้กล้ามเนื้อหลายส่วน จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ไม่แพ้การคาร์ดิโอ แนะนำอย่าดึงคอมากเกินไป ให้ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องในการยกและบิดตัว

จำนวนเซต/เวลา: 20-30 ครั้ง (นับซ้ายขวาเป็น 1) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 45 วินาที

https://youtu.be/cbKIDZ_XyjY?si=0yZeC1zHru_KKc1d 

เมาน์เทนไคลมเบอร์ (Mountain Climbers)

ท่านี้เปรียบเสมือนการวิ่งอยู่กับที่ในท่าแพลงก์ เป็นท่าที่ได้ทั้งความแข็งแรงของแกนกลางลำตัวและช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Workout ด้วยท่าออกกำลังกายลดพุง ที่ให้ร่างกายใช้พลังงานแบบเน้น ๆ

วิธีทำท่าเมาน์เทนไคลมเบอร์ :

  • เริ่มต้นในท่าแพลงก์สูง (High Plank) โดยใช้ฝ่ามือและปลายเท้ายันพื้น แขนเหยียดตรง ลำตัวเป็นเส้นตรง
  • ดึงเข่าขวาเข้าหาหน้าอก สลับกับดึงเข่าซ้ายเข้าหาหน้าอก ทำต่อเนื่องกันเหมือนกำลังปีนเขา
  • พยายามรักษาแนวลำตัวให้ตรงอยู่เสมอ ไม่ยกก้นสูงหรือแอ่นหลัง เกร็งหน้าท้องตลอดเวลาที่ทำท่า และควบคุมจังหวะการสลับขาให้สม่ำเสมอ

จำนวนเซต/เวลา: 30-60 วินาทีต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที

https://youtu.be/hq_0YlyfqGM?si=8aCTaQlEUSp4MvDb 

เบอร์พี (Burpees)

มาถึงท่าสุดโหดแต่ได้ผลดีเยี่ยมอย่างเบอร์พีกันบ้าง ท่านี้เป็นการออกกำลังกายแบบ Full-body ที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างรวดเร็ว เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงหน้าท้องด้วย โดยท่าเบอร์พีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดต้นขาให้เล็กลง ภายใน 1 อาทิตย์ ที่หลายคนมักจะหยิบเอาท่าออกกำลังกายนี้ไปใช้ในการ Workout ควบคู่กับการทำ IF (Intermittent Fasting)

วิธีทำท่าเบอร์พี :

  • ยืนตรง แยกเท้าพอประมาณ
  • ย่อตัวลงนั่งในท่าสควอท วางมือทั้งสองข้างลงบนพื้นด้านหน้า
  • เตะขาทั้งสองข้างไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว เข้าสู่ท่าแพลงก์สูง (บางคนอาจเพิ่มวิดพื้น 1 ครั้งในขั้นตอนนี้)
  • ดึงขาทั้งสองข้างกลับมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว กลับสู่ท่าสควอท
  • กระโดดขึ้นตรง พร้อมชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ
  • กลับสู่ท่ายืนเริ่มต้น แล้วทำซ้ำ สำหรับผู้เริ่มต้น อาจตัดการกระโดดหรือวิดพื้นออกไปก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มความท้าทายเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น

จำนวนเซต/เวลา: 10-15 ครั้งต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 60-90 วินาที (ท่านี้ค่อนข้างหนัก)

ท่าเบิร์ด-ด็อก (Bird-Dog)

ท่าเบิร์ด-ด็อก เป็นท่าที่ยอดเยี่ยมที่ Fitness Trainer หลายคนมักจะใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว (Core Stability) และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และยังช่วยลดอาการปวดหลังได้อีกด้วย

วิธีทำท่าเบิร์ด-ด็อก:

  • เริ่มต้นในท่าคลานสี่ขา เข่าอยู่ตรงกับสะโพก มืออยู่ตรงกับหัวไหล่ หลังตรง
  • เกร็งหน้าท้อง เหยียดแขนขวาไปข้างหน้า พร้อมกับเหยียดขาซ้ายไปข้างหลัง ให้แขน ลำตัว และขาเป็นเส้นตรงขนานกับพื้น
  • ค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วค่อยๆ ลดแขนและขากลับสู่ท่าเริ่มต้น
  • สลับข้าง เหยียดแขนซ้ายไปข้างหน้า และเหยียดขาขวาไปข้างหลัง พยายามให้สะโพกนิ่งที่สุด ไม่เอียงไปมาขณะยกแขนและขา โฟกัสที่การเกร็งหน้าท้องเพื่อรักษาสมดุล
  • เมื่อคุ้นชินกับท่าออกกำลังกายนี้แล้ว สามารถทำสลับข้างกันไปเรื่อย ๆ

จำนวนเซต/เวลา: 10-12 ครั้งต่อข้าง (รวม 20-24 ครั้ง) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที

เดดบั๊ก (Dead Bug)

ชื่อท่าอาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่ท่าเดดบั๊กนี้เป็นอีกหนึ่งท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนลึก เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังอยากหาวิธีลดพุงผู้หญิง เร่งด่วน 3 วัน ด้วยการออกกำลังกาย เผาผลาญไขมันส่วนเกิน

วิธีทำท่าเดดบั๊ก:

  • นอนหงายราบกับพื้น ยกแขนทั้งสองข้างชี้ขึ้นเพดาน
  • ยกขาทั้งสองข้างขึ้น งอเข่าทำมุม 90 องศา (เหมือนท่านั่งเก้าอี้กลางอากาศ)
  • เกร็งหน้าท้อง ค่อยๆ ลดแขนขวาลงไปทางด้านหลังศีรษะ พร้อมกับเหยียดขาซ้ายตรงไปข้างหน้า ลดลงจนเกือบแตะพื้น (แต่ไม่แตะ)
  • ในขณะที่ทำ หลังส่วนล่างต้องแนบติดพื้นตลอดเวลา หากรู้สึกว่าหลังแอ่น ให้ลดระยะการเหยียดแขนและขาลง หรือยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย
  • ดึงแขนและขากลับสู่ท่าเริ่มต้น แล้วสลับข้าง ลดแขนซ้ายลงพร้อมกับเหยียดขาขวา

จำนวนเซต/เวลา: 10-12 ครั้งต่อข้าง (รวม 20-24 ครั้ง) ต่อเซต ทำซ้ำ 3 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที

ฟลัทเทอร์คิกส์ (Flutter Kicks)

ปิดท้ายด้วยท่าฟลัทเทอร์คิกส์ ที่เน้นการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างและกล้ามเนื้อสะโพกส่วนหน้า (Hip Flexors) เป็นท่าที่ดูเหมือนง่าย แต่ถ้าทำถูกวิธีจะรู้สึกเกร็งหน้าท้องได้ดีมาก และช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องหรือพุงได้เป็นอย่างดี


วิธีทำท่าฟลัทเทอร์คิกส์ :

  • นอนหงายราบกับพื้น แขนวางแนบข้างลำตัว ฝ่ามือคว่ำลง หรือสอดมือไว้ใต้สะโพก
  • ยกขาทั้งสองข้างขึ้นจากพื้นเล็กน้อย (ประมาณ 6-12 นิ้ว) ขาเหยียดตรง
  • ตีขาสลับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกำลังว่ายน้ำ โดยให้ขาลอยเหนือพื้นตลอดเวลา
  • เกร็งหน้าท้องตลอดเวลาเพื่อให้หลังส่วนล่างแนบติดพื้น หากรู้สึกปวดหลัง ให้ยกขาสูงขึ้นเล็กน้อย

จำนวนเซต/เวลา: 30-60 วินาทีต่อเซต ทำซ้ำ 3-4 เซต พักระหว่างเซต 30 วินาที

หลังจากได้รู้จัก ท่าออกกำลังกายลดพุง ทั้ง 10 ท่าไปแล้ว คุณสามารถนำท่าเหล่านี้มาจัดเป็นโปรแกรมการออกกำลังกายแบบ Circuit Training ซึ่งเป็นการทำท่าออกกำลังกายหลายๆ ท่าต่อเนื่องกันไปโดยพักระหว่างท่าน้อยที่สุด หรือไม่พักเลย แล้วค่อยพักเมื่อจบรอบ 

วิธีนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น และประหยัดเวลาในการออกกำลังกายอีกด้วย ตัวอย่างเช่น คุณอาจเลือก 5-6 ท่าจาก 10 ท่านี้ ทำท่าละ 30-60 วินาที หรือ 10-15 ครั้ง ต่อเนื่องกันไปจนครบทุกท่า แล้วพัก 1-2 นาที จากนั้นทำซ้ำอีก 2-3 รอบ ก็จะได้โปรแกรมการออกกำลังกายที่เข้มข้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีกับร่างกาย

แต่ท่าออกกำลังกายลดพุง จะเห็นผลก็ต่อเมื่อทำควบคู่กับการคาร์ดิโอที่ถูกต้อง 

ท่าออกกำลังกายลดพุง ที่เราแนะนำไปนั้นจะเห็นผลชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะการคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง (ซึ่งถ้าคุณมีลู่วิ่งไฟฟ้าที่บ้านก็จะสะดวกมาก) การเดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่และไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เพราะเมื่อไขมันโดยรวมในร่างกายลดลง หน้าท้องที่ผ่านการฝึกฝนด้วยท่าต่างๆ ก็จะเผยให้เห็นความกระชับและสวยงามได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองจัดตารางให้มีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสัปดาห์ละ 3-5 วัน ครั้งละ 30-60 นาที ควบคู่ไปกับการทำท่าออกกำลังกายลดพุง รับรองว่าหุ่นเฟิร์ม สุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน!

แนะนำลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Plus T5 ตัวช่วยการคาร์ดิโอที่บ้าน ลดพุง พร้อมได้สุขภาพดีเป็นของแถม

หากตอนนี้คุณกำลังมองหาตัวช่วยในการคาร์ดิโอ เพื่อมาเพิ่มพลังการลดไขมันหน้าท้อง ลดพุง ที่ไม่ต้องไปง้อฟิตเนสแพง ๆ เราขอแนะนำ ลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Plus T5 ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับโฮมยิม แต่คุณภาพระดับฟิตเนส จัดเต็มทั้งในเรื่องความทนทาน ดีไซน์ รองรับทุกระดับการฝึก พร้อมโปรแกรม Fat Burn ที่ช่วยให้การทำคาร์ดิโอลดพุงของคุณ เป็นเรื่องสนุกที่ทำได้ทุกวันที่บ้าน

ฟังก์ชันการใช้งานที่ออกแบบมาเพื่อการลดไขมันโดยเฉพาะ

 ✅ มอเตอร์ AC 4 แรงม้า – แรงพอสำหรับสายฝึกจริงจัง วิ่งต่อเนื่องก็ไม่สะดุด
✅ ความเร็วสูงสุด 22 กม./ชม. | ปรับความชันได้ถึง 15% – ใช้ฝึกได้ตั้งแต่เดินเร็วไปจนถึงการจำลองวิ่งขึ้นเนิน
✅ หน้าจอ LED Dot-Matrix ใช้งานง่าย – มาพร้อม 40 โปรแกรมฝึก + โหมดวัด Body Fat ที่ช่วยติดตามความก้าวหน้าได้จริง
✅ รองรับ Bluetooth – เชื่อมต่อแอปสุขภาพ ฟังเพลง หรือดูวิดีโอไปพร้อมกันได้
✅ พื้นที่วิ่งกว้าง 153 x 55 ซม. | รับน้ำหนักได้ถึง 150 กก. – สบายใจแม้ตัวใหญ่หรือวิ่งเร็ว
✅ มาตรฐาน EN957 – โครงสร้างแน่นหนา มั่นใจทุกก้าว

ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย หรือเป็นคนที่มีเป้าหมายชัดในการสร้างกล้ามเนื้อ สร้างซิกแพค  Maxnum Plus T5 คือลู่วิ่งไฟฟ้าที่ช่วยให้คุณ “เริ่มต้นได้ง่าย” และเดินทางสู่หุ่นที่คุณฝันไว้ได้จริง สั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Plus+ T5 ในราคาพิเศษ คลิกที่ลิงก์นี้ หรือแอด LINE ID: maxnumfitness หรือคลิก bit.ly/3y9h0tX เพื่อสั่งซื้อได้ทันที

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!