รวม 5 กลวิธีบริหารธุรกิจฟิตเนส ลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและเสริมกำไร

ธุรกิจฟิตเนสแต่ละที่ต่างมีกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน บางที่อาจเน้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกหรือบางที่เน้นการขายสินค้ามากกว่า แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนคุณก็สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าให้กับธุรกิจฟิตเนสคุณได้ทั้งหมด

และเมื่อธุรกิจฟิตเนสคุณเติบโตขึ้น คุณก็ยิ่งต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นตามลำดับ การลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ในฟิตเนสของคุณจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญเพราะไม่เพียงแต่เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป แต่ยังเป็นปัจจัยทางอ้อมที่ช่วยให้คุณพัฒนาฟิตเนสในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวันนี้ NBA Sportmanagement จะมาบอกกลวิธีบริหารธุรกิจฟิตเนสที่จะลดค่าใช้จ่ายจุกจิกในฟิตเนสของคุณ

ลดค่าใช้จ่ายการดำเนินธุรกิจฟิตเนสด้วย 5 ขั้นตอนต่อไปนี้

ตรวจสอบสัญญาเช่าพื้นที่ฟิตเนสให้ละเอียด ชัดเจน

สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจฟิตเนส ก่อนเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่คุณต้องอ่านรายละเอียดการเช่าให้ครบเพราะขณะนี้พื้นที่หลายแห่งมีราคาสูง ต้องลงเม็ดเงินเยอะและเพื่อป้องกันข้อพิพาททีหลัง โดยข้อมูลสัญญาเบื้องต้นที่คุณควรเช็คให้ดีก่อนเช่าพื้นที่นั้นมีดังนี้

• กำหนดสัญญาเช่าให้ชัดเจนว่าเป็นเป็นระยะสั้น (ไม่เกิน 3 ปี) หรือระยะยาว (มากกว่า 3 ปี) การตกลงข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้คุณวางแผนดำเนินธุรกิจฟิตเนสในระยะยาวได้ไม่ติดขัด

• การเช่าพื้นที่ฟิตเนสระยะยาว 3 ปีขึ้นไป การทำสัญญาต้องไปจดทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เพราะคุณต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดิน ถ้าไม่ไปจดทะเบียนสัญญาเช่าที่ดินฉบับนั้นจะกลายเป็น สัญญาระยะสั้น 3 ปีทันที

• หนังสือสัญญาต้องมีรายละเอียดตามที่คู่สัญญาตกลงกัน และมีการลงลายมือชื่อของคู่สัญญา และพยานไว้อย่างครบถ้วนถึงจะเพื่อให้เป็น สัญญาเช่าที่สมบูรณ์
• ระบุวัตถุประสงค์ของการเช่า, ค่าเช่าและระยะเวลาการเช่าตั้งแต่วันเริ่มต้นจนกระทั่งสิ้นสุดให้ชัดเจนเพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย
• ระบุการรับผิดของผู้เช่ากรณีทำพื้นที่เสียหาย โดยทั้งสองฝ่ายต้องตกลงให้เรียบร้อยว่าความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่และ ระบุลงไปในสัญญาให้ชัดเจน

นำระบบ Smart Energy มาใช้งาน

ในประเทศไทย Smart Energy อาจจะยังไม่แพร่หลาย แต่สำหรับต่างประเทศแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจฟิตเนสได้เป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่สามารถเปิดฟิตเนส 24 ชั่วโมงได้แบบไม่ติดขัด ซึ่งการนำ Smart Energy มาผนวกรวมกับธุรกิจฟิตเนสสามารถทำได้ดังนี้

• ติดตั้งแผงโซล่าร์เซลส์ ซึ่งต้องเป็นเกรดฟิตเนสและสุขภาพโดยเฉพาะ (Fitness & Health)
• ดัดแปลง, นำเข้าเครื่องออกกำลังกายที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ขณะลูกค้าใช้งาน
• เปิดฟิตเนสแบบโล่งแจ้ง Outdoor ที่ใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์โดยตรง

การใช้ Smart Energy นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายแล้วยังช่วยลด Carbon Footprint ลดสภาวะโลกร้อนและเพิ่ม Eco System ให้กับโลกของเราอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถนำจุดเด่นข้อนี้มาเป็นตัวชูโรงให้กับฟิตเนสของคุณได้ เพราะขณะนี้ยังไม่มีฟิตเนสคอนเซ็ปต์แนวนี้ในประเทศไทย

ปูพื้นฟิตเนสให้แน่นหนา ป้องกันการซ่อมแซมภายหลัง

ฟิตเนสหลายแห่งต้องประสบกับปัญหาพื้นพังหรือพื้นแตกที่ทำให้ต้องคอยซ่อมแซมและเก็บกวาดอยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งปัญหามาจากการที่ฟิตเนสไม่ได้ ปูพื้น เพื่อดูดซับแรงกระแทกจากการใช้งานเครื่องออกกำลังกาย หรือถึงแม้ว่าปูแล้วก็อาจจะเลือกวัสดุที่ไม่เหมาะสม ใช้ป้องกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ดังนั้นคุณจึงต้องใส่ใจกับการปูพื้นฟิตเนสถ้าต้องการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องออกกำลังกายราคาแพงของคุณได้รับความเสียหาย การปูพื้นฟิตเนสที่เราแนะนำคือวัสดุประเภท ยางความหนาราว ๆ 1 นิ้วหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่าบริเวณนั้นเป็นจุดที่ผู้ใช้งานมีการใช้เครื่องออกกำลังกายหนักแค่ไหน เช่น บาร์เบลหรือ Smith Machine น้ำหนักตั้งแต่ 30 กิโลกรัมขึ้นไป ควรเพิ่มความหนาของพื้นยางเป็น 1.5 นิ้ว เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ วัสดุปูพื้นฟิตเนสที่แข็งแรงไม่ได้มีเพียงแค่ยางเท่านั้น แต่ยังมีอีกมากมายที่สามารถเสริมภาพลักษณ์ฟิตเนสคุณไปพร้อม ๆ กันได้อีกด้วย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง พื้นฟิตเนสสำคัญหรือไม่ ? ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด

เลือกแผนการตลาดที่ใช่สำหรับธุรกิจฟิตเนสคุณ

เราเคยได้ทำบทความเกี่ยวกับไอเดียแผนการตลาดของธุรกิจฟิตเนสไปแล้ว ซึ่งการนำมาปรับใช้ในธุรกิจฟิตเนสจริงคุณอาจไม่ต้องนำทุกไอเดียมาใช้ทั้งหมด เพราะการทำแผนการตลาดแต่ละข้อก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแตกต่างกันไป ที่ถึงแม้ว่าคุณจะทำการทำการตลาดแบบ Offline ก็ตาม เช่น การแจกนามบัตร, ใบปลิวหรือลงโฆษณาในนิตยสารก็ต้องมีค่าออกแบบ, ครีเอทีฟ, พนักงานแจกใบปลิวและอีกมากมาย ซึ่งคุณก็ไม่อาจรู้เลยว่ากลยุทธ์นี้จะได้ผลหรือไม่

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดของการพัฒนาและนำกลยุทธ์แผนการตลาดมาใช้ก็คือ การเรียนรู้และเก็บข้อมูล ว่าลูกค้าของคุณชื่นชอบคอร์สเรียนอะไรหรือต้องการใช้บริการอะไรมากที่สุด จากนั้นคุณก็มุ่งเน้นโฟกัสทำแผนการนั้นให้มีคุณภาพนั่นเอง

บริการหลังการขายจากแบรนด์ผู้จัดจำหน่ายที่ดี ช่วยคุณประหยัดได้มหาศาล

การวางแผนจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายให้รอบคอบและรอบด้านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคตได้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็นด้านการซ่อมแซม, ตรวจสอบสภาพให้เหมือนใหม่เพื่อมัดใจลูกค้าหรือกระทั่งการรับประกันที่ครอบคลุมเงื่อนไขไม่เยอะให้คุณต้องปวดหัว

คำแนะนำสำหรับเราเพื่อการดำเนินธุรกิจฟิตเนสที่อุ่นใจนั่นคือการ เลือกแบรนด์ผู้จัดจำหน่ายที่ดี มีประสบการณ์และมีการให้บริการหลังการขายที่ครบวงจรตั้งแต่การจัดส่ง, ติดตั้ง, ตรวจสอบสภาพไปจนถึงการรับรองคุณภาพอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป เพื่อให้สภาพเครื่องออกกำลังกายของคุณแข็งแรงเสมอ สภาพเหมือนใหม่ ใช้งานได้นาน ลดภาระที่คุณต้องลงแรงซ่อมแซมเครื่องออกกำลังกายเองทั้งหมด

NBA Sportmanagement เป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้จัดจำหน่ายที่มีบริการหลังการขายอันดับ 1 ที่ได้การรับรองคุณภาพจาก Gym80 แบรนด์ผลิตเครื่องออกกำลังกายอันดับ 1 ของโลก ด้วยการจัดจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายที่มีคุณภาพระดับโลกครอบคลุมทุกรูปแบบ พร้อมบริการหลังการขายที่บอกต่อกันอันดับ 1 มากมาย เช่น

• ตรวจเช็กสภาพเครื่องออกกำลังกายทุก 4 เดือน 
• ซ่อมแซมได้รวดเร็ว ด้วยนโยบายสำรองอะไหล่ 5% อยู่เสมอ
• จัดส่ง-ติดตั้งให้ถึงฟิตเนสและบ้านของคุณ
• พร้อมให้คำปรึกษาการดำเนินธุรกิจฟิตเนสแบบครบวงจร
• แนะนำการพัฒนาเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกายเพื่อต่อเติมธุรกิจฟิตเนสในอนาคต

ดังนั้นการเลือกแบรนด์ผู้จัดจำหน่ายที่ดีมีคุณภาพไม่เพียงแต่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับฟิตเนสคุณให้ขึ้นสู่ระดับสากลได้ อย่ารอช้า ติดต่อเราเลยตอนนี