แจกตารางออกกำลังกาย 7 วัน ลดพุงลดโรค ทำได้เลยที่บ้าน

แจกตารางออกกำลังกาย 7 วัน ลดพุงลดโรค ทำได้เลยที่บ้าน

ไม่ว่าจะปีใหม่หรือปีเก่า ปีไหน ๆ เชื่อว่าหลายคนต่างตั้งเป้าหมายในการดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับการมีสุขภาพที่ดีนั้นหนีไม่พ้น “การออกกำลังกาย” แต่การจะออกกำลังกายให้เห็นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถออกได้อย่างต่อเนื่องนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนที่ดีควบคู่ไปด้วย 

ใครที่อยาก Fit and Firm อยากลดพุง ลดโรค และสร้างสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะในบทความนี้ NBA Sportmanagement จะขออาสาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้กับคุณ พร้อมกับแจกตารางออกกำลังกาย 7 วัน ที่ออกแบบมาให้คุณสามารถออกกำลังกายตามได้ง่าย ๆ ที่บ้าน พร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลย!

การออกกำลังกายดีอย่างไร ทำไมต้องวางแผนออกกำลังกาย 7 วัน

การออกกำลังกายเป็นประจำส่งผลดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก, การทำงานของหัวใจและปอด, ช่วยควบคุมน้ำหนัก, ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังช่วยคลายความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย

โดยการวางแผนตารางออกกำลังกาย 7 วัน จะช่วยให้การออกกำลังกายของคุณมีความต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งตารางออกกำลังกายที่ดีจะช่วยให้คุณได้บริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างสมดุล มีวันพักผ่อนที่เพียงพอเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งการผสมผสานกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การฝึกเวทเทรนนิ่งสลับกับการทำ Calisthenics และวิ่งเพื่อฝึกความทนทาน จะช่วยให้ร่างกายพัฒนาอย่างรอบด้านนั่นเอง

ตารางออกกำลังกาย 7 วัน
7-day-workout-plan

ตารางการออกกำลังกาย 7 วันเหมาะกับใครบ้าง?

อยากรู้ใช่ไหม? ว่าตารางออกกำลังกาย 7 วันนั้นเหมาะกับใครบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลย

  • มือใหม่ที่อยากเริ่มออกกำลังกาย สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย โปรแกรมออกกำลังกายนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างถูกวิธี ค่อย ๆ ไต่ระดับความยากง่าย แบบไม่หักโหมจนเกินไป
  • ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก มีความต้องการให้การเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันและสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน บอกเลยว่าโปรแกรมออกกำลังกายนี้ตอบโจทย์ เพราะโปรแกรมนี้เราผสมผสานทั้งการคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งไว้อย่างเหมาะสม
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาไปฟิตเนส แม้จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปฟิตเนสก็ออกกำลังกายได้ด้วยตารางนี้ เพราะแต่ละท่าที่เราคัดมา คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมายเลย 
  • ผู้ที่อยากเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง คนที่อยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เริ่มต้นดูแลตัวเองสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถนำตารางนี้ไปปรับใช้ในการออกกำลังกายดูแลสุขภาพได้

แจกแพลนตารางออกกำลังกาย 7 วัน ที่จะมือใหม่หรือมือโปรก็ทำได้!

การมีหุ่นที่ Fit and Firm ตามเป้าหมายของคุณนั้นก็ต้องเริ่มต้นจากการออกกำลังกาย ด้วยโปรแกรมออกกำลังกาย 7 วัน ที่ NBA Sportmanagement ดีไซน์มาให้คุณกันดีกว่าว่า ตั้งแต่วันจันทร์ไปจนถึงอาทิตย์ ในแต่ละวันต้องโฟกัสการออกกำลังกายในส่วนไหนกันบ้าง

แจกตารางออกกำลังกาย 7 วัน
7-day-workout-plan-diy

วันจันทร์ : เริ่มต้นหุ่นปัง เผาผลาญไขมันด้วยการ Cardio

เริ่มต้นวันแรกของตารางออกกำลังกาย 7 วันด้วยการคาร์ดิโอ เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ โดยในวันนี้ขอแนะนำการออกกำลังกาย คือ

  • วิ่งโซน 2 บนลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นเวลา 45 นาทีขึ้นไป
  • High Knees เป็นเวลา 45 วินาที และสลับพัก 15 วินาที 
  • Jumping Jacks เป็นเวลา 45 วินาที และสลับพัก 15 วินาที 
  • Burpees ทำประมาณ 10-12 ครั้ง 

โดยทำแต่ละท่าทั้งหมด 3-4 เซ็ต

วันอังคาร : เบิร์นหน้าท้อง พุงหายไม่ต้องเขม่ว

สำหรับในวันต่อมาจะเน้นสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนบนและแกนกลางลำตัว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดไขมันหน้าท้อง สร้างหน้าท้องที่แบนราบ โดยในตารางการออกกำลังกาย 7 วัน ขอลิสต์ท่าออกกำลังกายมาให้ ดังนี้

  • Push-ups ทำ 10-15 ครั้ง (สำหรับมือใหม่ สามารถชันเข่าช่วยได้) 
  • Plank ค้างไว้ 30-60 วินาที 
  • Crunches ทำ 15-20 ครั้ง 
  • Bicycle Crunch 20 ครั้ง (นับซ้าย-ขวาเป็น 1)

โดยทำแต่ละท่าทั้งหมด 3 เซ็ต

วันพุธ : Lower Body, Higher Burn 

วันที่ 3 จะมาสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนล่าง ตั้งแต่กล้ามเนื้อหลัง ไปจนถึงกล้ามเนื้อแฮมสตริง ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดี โดยให้เริ่มออกกำลังกายด้วยท่าต่าง ๆ เหล่านี้

  • Squat 15-20 ครั้ง 
  • Lunges ข้างละ 12-15 ครั้ง 
  • Hip Thrusts 15-20 ครั้ง 

โดยทำแต่ละท่าทั้งหมด 3 เซ็ต

วันพฤหัส : Active Recovery วันพักก็ยังฟิตได้

หลังจากออกกำลังกายมาหลายวันแล้ว แพลนในวันนี้เราจะให้ร่างกายได้พักและฟื้นตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าให้นอนนิ่ง ๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยนะ แต่การพักในวันนี้จะเป็นการพักแบบ Active Recovery ที่จะมีการขยับร่างกายเบา ๆ เน้นยืด ๆ เหยียด ๆ เพื่อให้เลือดในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น และลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

  • โยคะแบบ Pilatis 15-20 นาที เน้นท่ายืดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
  • เดินชันด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า 20-30 นาที โดยให้ความชันมากกว่า 5 ขึ้นไป ส่วนความเร็วไม่เกิน 6 (ขึ้นอยู่กับสภาพความฟิตของแต่ละคน)

วันศุกร์ : ปลุกพลัง ฟิตจัดเต็มด้วยการทำ HIIT

เมื่อได้ออกกำลังกายในท่าที่ช่วยให้ร่างกายได้พักฟื้นตัวไปแล้ว สำหรับแพลนในวันศุกร์เราจะพาคุณกลับมาฟิตกันอีกครั้ง กับแพลนที่ใช้การเล่นแบบ HIIT ที่ผสมผสานการออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกายเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ

  • Jumping Jacks เป็นเวลา 1 นาที
  • Squat to Press พร้อมกับดัมเบลหรือขวดน้ำ 15 ครั้ง
  • Plank to Push-up 10-12 ครั้ง
  • Mountain Climbers 30-45 วินาที

โดยทำแต่ละท่าทั้งหมด 3 เซ็ต หรือสามาถปรับเปลี่ยนท่าออกกำลังกายได้ โดยดูได้จากบทความนี้ 10 ท่าออกกำลังกายลดพุง ปั้นหุ่นเฟิร์ม ทำเองตามได้ ง่าย ๆ ที่บ้าน

วันเสาร์ : วันจัดหนักคาร์ดิโอพร้อมเล่นกล้ามหน้าท้อง

เดินทางกันมาจนจะถึงเส้นชัยแล้ว สำหรับในวันเสาร์ ส่วนใหญ่แต่ละคนจะได้พักผ่อน ได้พักเหนื่อยมาทั้งวัน ดังนั้นวันนี้เราจะต้องใช้แรงเยอะหน่อยด้วยการเริ่มเล่นที่เน้นการคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการบริหารหน้าท้อง ปั้นซิกแพค เพื่อให้คุณมีหน้าท้องที่แบนราบแบบเห็นชัดมากยิ่งขึ้น

  • High-Intensity Interval Training - HIIT วิ่งเร็วสลับเดินเร็ว 30 วินาที ทำต่อเนื่อง 15-20 นาที
  • Leg Raises 15-20 ครั้ง ทำ 3 เซ็ต
  • Russian Twists ข้างละ 15-20 ครั้ง ทำ 3 เซ็ต

วันอาทิตย์ : พักร่าง พักผ่อน ให้พร้อมลุยต่อ

และก็มาถึงวันสุดท้ายของตารางออกกำลังกาย 7 วัน ถึงเวลาให้รางวัลตัวเองด้วยการพักผ่อนอย่างเต็มที่ในวันอาทิตย์ โดยคุณอาจจะลองทำ Ice Bath แช่น้ำแข็งเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ใช้งานมาอย่างหนักหน่วงมาตลอดสัปดาห์ให้ Recovery พร้อมสำหรับสัปดาห์ต่อไป

ซึ่งการพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการออกกำลังกาย เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อได้ซ่อมแซมและแข็งแรงขึ้น ที่สำคัญการพักจะช่วยให้คุณนั้นพร้อมลุยกับการออกกำลังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตารางออกกำลังกาย 30 วัน ในเดือนถัดไปอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดตารางออกกำลังกาย 7 วัน

รวมคำถามที่พบบ่อย ที่คนอยากเริ่มต้นการจัดตารางออกกำลังกาย 7 วันต้องรู้ เพื่อทำให้การออกกำลังกายของุคณไปถึงเป้าหมายได้ ดังนี้

มือใหม่อยากรู้ว่าใน 1 สัปดาห์ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน?

สำหรับใครที่มีคำถามว่า ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน? ต้องตอบแบบนี้ว่า สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันและรักษาสุขภาพ แนะนำว่าควรออกกำลังกายอย่างน้อย 5 วันขึ้นไปและต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องมากกว่า 45 นาทีต่อวัน

แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพ เริ่มใช้ตารางออกกำลังกาย 7 วัน แนะนำว่าให้เริ่มต้นออกกำลังกายอยู่ที่ประมาณ 3-4 วันต่อสัปดาห์และแต่ละวันต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 15-30 นาที/วัน จากนั้นเมื่อร่างกายเริ่มชิน และปรับสภาพได้ ให้เพิ่มความถี่ของเวลาในการออกกำลังกายให้มากขึ้น

ก่อนออกกำลังกายต้องวอร์มอัพนานเท่าไหร่?

การวอร์มอัพเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อเตรียมความพร้อมให้กล้ามเนื้อ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายได้อีกด้วย สำหรับใครที่เริ่มวางตารางออกกำลังกาย 7 วัน แนะนำว่าก่อนออกำลังกาย ควรวอร์มอัพประมาณ 5-15 นาที โดยเริ่มจากการเคลื่อนไหวช้า ๆ เบา ๆ เช่น เดินย่ำเท้าอยู่กับที่, หมุนแขน, หมุนเอว, หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบเคลื่อนไหว เป็นต้น

สรุปทั้งหมด

สุขภาพดีเริ่มต้นได้จากการวางแผนที่ดี โดยตารางออกกำลังกาย 7 วันนี้จะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง เห็นผลชัดเจน และไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บอีกด้วย สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หรือคนไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรือออกกำลังกาย แนะนำเลยว่าลองหยิบโปรแกรมออกกำลังกายนี้ของเราไปใช้ดู รับรองว่าออกตามได้ง่าย แถมหุ่นเฟิร์ม สุขภาพดี แบบเป๊ะปังไม่รู้ตัว

แนะนำ Maxnum Plus T5 ลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับใช้งานในบ้าน จัดเต็มทั้งสเป็คและดีไซน์

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกซ้อม ไม่ว่าจะเป็นสายวิ่งมาราธอน หรือสายเวทเทรนนิ่ง  ลู่วิ่งไฟฟ้าก็เป็นอีกตัวช่วยที่ตอบโจทย์สุด ๆ เพราะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สะดวก ไม่ต้องพะวงกับฝนตก แดดแรง หรือถนนลื่น

Maxnum-Plus-T5

และถ้าจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าดี ๆ สักเครื่อง เราขอแนะนำ Maxnum Plus T5 ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับใช้งานในโฮมยิม แต่คุณภาพจัดเต็มระดับฟิตเนส ด้วยมอเตอร์ AC สุดแกร่ง ทนทาน วิ่งไกลแค่ไหนก็ไหว ไม่ต้องกลัวเครื่องสะดุดกลางทาง เหมาะสำหรับทุกเป้าหมายการออกกำลังกายของคุณ!

 ฟังก์ชันครบครัน เอาใจสายวิ่งมาราธอน พร้อมซัพพอร์ตทุกเป้าหมาย

  • มอเตอร์ AC 4 แรงม้า – แรงพอสำหรับสายวิ่งมาราธอน ซ้อมได้ที่บ้าน วิ่งต่อเนื่องก็ไม่สะดุด
  • ความเร็วสูงสุด 0.5-22 กม./ชม. | ปรับความชันได้ถึง 15% – ใช้ฝึกได้ตั้งแต่เดินเร็วไปจนถึงการจำลองวิ่งขึ้นเนิน
  • หน้าจอ LED Dot-Matrix ใช้งานง่าย – มาพร้อม 40 โปรแกรมฝึก + โหมดวัด Body Fat ที่ช่วยติดตามความก้าวหน้าได้จริง
  • รองรับ Bluetooth – เชื่อมต่อแอปสุขภาพ 
  • พื้นที่วิ่งกว้าง 153 x 55 ซม. | รับน้ำหนักได้ถึง 150 กก. – สบายใจแม้ตัวใหญ่หรือวิ่งเร็ว
  • มาตรฐาน EN957 – โครงสร้างแน่นหนา มั่นใจทุกก้าว

จะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มวิ่งออกกำลังกาย หรือเป็นสายมาราธอนที่เจนวงการมานานแค่ไหนก็ตาม Maxnum Plus+ T5 คือลู่วิ่งไฟฟ้าที่พร้อมช่วยให้คุณสนุกกับทุกก้าวของการวิ่ง และไปให้ถึงเป้าหมายหุ่นในฝันได้เร็วขึ้น ด้วยฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ ทั้งใช้งานง่าย ปลอดภัย วิ่งได้ทุกวันแม้ไม่มีเวลาออกนอกบ้าน

อย่าปล่อยให้โอกาสในการสร้างสุขภาพดี ๆ หลุดมือไป Maxnum Plus+ T5 กำลังจัดโปรพิเศษในช่วงนี้เท่านั้น คลิกสั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Plus+ T5 ได้เลยที่นี่ หรือแอด LINE ID: @maxnumfitness เท่านั้น เพราะราคาดี ๆ แบบนี้มีจำนวนจำกัด! 

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!