ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน? ตอบข้อสงสัยที่คนรักสุขภาพต้องรู้

ในปัจจุบันการดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตคนจำนวนมาก ทั้งเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคภัย และเพิ่มความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง อย่างไรก็ตาม คำถามที่มักเกิดขึ้นในใจของหลายคนคือ “ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน ถึงจะดีที่สุด?”

บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบเกี่ยวกับคำถาม ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน พร้อมแนะนำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ควรออกกำลังกาย ระยะเวลาในการออกกำลังกายให้ได้ผล และวิธีที่คุณสามารถออกกำลังกายได้ทุกวัน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการออกกำลังกาย บทความนี้พร้อมช่วยให้คุณสามารถปรับตารางการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของคุณได้

ตอบคำถามยอดฮิต! ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน?

หนึ่งในคำถามที่คนรักสุขภาพมักสงสัยคือ "เราควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน?" คำตอบของคำถามนี้ไม่ได้มีแบบเดียว เพราะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือเพิ่มความทนทาน ในส่วนนี้จะแยกคำแนะนำให้คุณอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณสามารถออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด

การออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน

หากเป้าหมายของคุณคือการลดไขมันในร่างกาย การออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ถือว่าเหมาะสม การเลือกกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า การปั่นจักรยาน หรือการทำคาร์ดิโอประเภทอื่น จะช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น รวมถึงการผสมผสานการฝึกกล้ามเนื้อ (Strength Training) อีก 2-3 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและกระตุ้นระบบเผาผลาญในระยะยาว 

แต่ทั้งนี้ในแต่ละสัปดาห์ ควรจะต้องมี Cheat Day หรือวันที่ให้ร่างกายได้รับประทานอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญและทำให้ร่างกายไม่เครียดจนเกินไป

ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน?
ภาพจาก : justrunlah

การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ การออกกำลังกาย 4-6 วันต่อสัปดาห์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยควรแบ่งการฝึกเวทเทรนนิ่ง เช่น วันหนึ่งสำหรับอกและไหล่ อีกวันสำหรับกล้ามขา และอีกวันสำหรับกล้ามเนื้อหลัง เป็นต้น นอกจากนี้การพักฟื้นของกล้ามเนื้อ (Rest Day) 1-2 วันต่อสัปดาห์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและเติบโตอย่างเต็มที่

การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทาน

สำหรับเป้าหมายในการเพิ่มความทนทาน ควรต้องออกกำลังกาย 5-6 วันต่อสัปดาห์ที่เน้นกิจกรรมที่มีความต่อเนื่อง เช่น การวิ่งมาราธอน การปั่นจักรยาน หรือการว่ายน้ำ จะช่วยเสริมสร้างความอึดของร่างกาย ทั้งนี้ควรปรับความหนักของการออกกำลังกายสลับกันไป เช่น วันที่หนักสลับกับวันที่เบา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

ออกกำลังกายเวลาไหนดีที่สุด? เลือกเวลาในการออกกำลังกายของคุณให้ถูกต้อง!

ออกกำลังกายเวลาไหนดีที่สุด? คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ตารางชีวิต พลังงานในแต่ละช่วงเวลา และเป้าหมายของการออกกำลังกายของคุณ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาก็จะมีความแตกต่างกันดังนี้ 

  • ช่วงเช้า: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างวินัยและเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น การออกกำลังกายช่วงเช้าจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานตลอดทั้งวัน

  • ช่วงบ่ายหรือเย็น: สำหรับผู้ที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุด ช่วงเวลานี้เหมาะสมที่สุด เนื่องจากร่างกายอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น และความเสี่ยงในการบาดเจ็บลดลง

  • ช่วงค่ำ: แม้จะเป็นเวลาที่เงียบสงบสำหรับบางคน แต่ควรระวังไม่ให้หนักเกินไป เนื่องจากอาจรบกวนการนอนหลับ

คำถามเกี่ยวกับระยะเวลาในการออกกำลังกายที่เหมาะสมมักเป็นที่สงสัยของหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นเส้นทางการดูแลสุขภาพ คำตอบขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้

เราควรวิ่งอาทิตย์ละกี่วัน 
ภาพจาก : The Independent

1. การออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน

สำหรับผู้ที่ตั้งใจลดไขมันในร่างกาย การออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ เช่น คาร์ดิโอ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ระยะเวลาที่เหมาะสมคือ 30-60 นาทีต่อครั้ง โดยทำ 4-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมันสะสมในร่างกาย ด้วยการทำคาร์ดิโอ เช่น การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า หรือการปั่นจักรยาน ควรอยู่ในระดับที่หัวใจเต้นประมาณ 60-70% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด (Maximum Heart Rate) 

ซึ่งคุณสามารถคำนวณได้โดยง่ายจากสูตร 220 ลบด้วยอายุ หากออกกำลังกายในระยะเวลานี้อย่างสม่ำเสมอ คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในรูปร่างภายใน 4-6 สัปดาห์

2. การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ

สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ การฝึกเวทเทรนนิ่งเป็นสิ่งจำเป็น ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอยู่ระหว่าง 45-60 นาทีต่อครั้ง โดยควรเน้นการฝึกที่มีความหนักหน่วงพอที่จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ (Hypertrophy) การออกกำลังกายประเภทนี้ไม่ควรยืดเยื้อมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดภาวะ Overtraining ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายได้ 

โดยการออกกำลังกายแต่ละครั้งควรมุ่งเน้นไปที่กลุ่มกล้ามเนื้อเฉพาะ และควรให้แต่ละกลุ่มกล้ามเนื้อได้พักฟื้นอย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนฝึกซ้ำ การเพิ่มน้ำหนักหรือจำนวนเซ็ตอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลา 6-12 สัปดาห์

3. การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทาน

สำหรับเป้าหมายในการเพิ่มความทนทาน การออกกำลังกายที่เหมาะสมควรใช้เวลา 60-90 นาทีต่อครั้ง โดยทำอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ กิจกรรมที่เหมาะสมได้แก่ การวิ่งระยะไกล การปั่นจักรยาน หรือการว่ายน้ำ การออกกำลังกายแบบนี้เน้นความต่อเนื่องและความหนักในระดับปานกลางถึงสูง การปรับความหนัก (Intensity) ให้หลากหลาย เช่น สลับระหว่างการออกกำลังกายเบาและหนัก 

การออกกำลังกายด้วยวิธีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ คุณอาจต้องใช้เวลาประมาณ 8-12 สัปดาห์ในการสร้างความทนทานของระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างเห็นได้ชัด

4. การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยรวม

สำหรับผู้ที่ต้องการเพียงรักษาสุขภาพ การออกกำลังกายประมาณ 20-30 นาทีต่อวัน หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ โดยกิจกรรมไม่จำเป็นต้องหนักมาก เช่น การเดินเร็ว หรือการโยคะ สิ่งสำคัญคือการทำอย่างสม่ำเสมอ การเพิ่มกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น เดินขึ้นบันไดหรือปั่นจักรยานไปทำงาน ก็สามารถเสริมสุขภาพได้ในระยะยาว

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความต่อเนื่องและความตั้งใจ ระยะเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกายขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความสามารถของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม ควรฟังร่างกายของตัวเองเพื่อป้องกันการฝืนจนเกินไป และรักษาความสมดุลระหว่างการออกกำลังกายกับการพักผ่อนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5 วิธีออกกำลังกายที่จะทำให้คุณออกกำลังกายได้ทุกวัน

การออกกำลังกายทุกวันเป็นเป้าหมายที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่ความท้าทายอยู่ที่การทำให้กิจกรรมเหล่านี้ไม่กลายเป็นความจำเจและทำให้คุณรู้สึกสนุกที่จะทำต่อเนื่อง บทความนี้จะแนะนำ 5 วิธีออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย ช่วยสร้างแรงจูงใจและเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายของคุณ

วิ่งหรือเดินด้วย ‘ลู่วิ่งไฟฟ้า’

ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ด้วยความสามารถในการปรับระดับความเร็วและความชันให้เหมาะสมกับความต้องการ คุณสามารถใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าได้ทั้งสำหรับการวิ่งจ๊อกกิ้งเพื่ออบอุ่นร่างกายหรือการวิ่งเพื่อการเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายบนลู่วิ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและปอด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟินที่ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น

การใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถปรับให้เข้ากับตารางเวลาของคุณได้ง่าย เช่น การวิ่งเบา ๆ 20-30 นาทีในช่วงเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ หรือการวิ่งหนัก 40-60 นาทีในตอนเย็นเพื่อปลดปล่อยความเครียด นอกจากนี้ การดูหนัง ฟังเพลง หรือดูซีรีส์ขณะวิ่งยังช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินระหว่างการออกกำลังกาย

คาร์ดิโอ อาทิตย์ละกี่วัน
ภาพจาก : Anytime Fitness

เครื่องเดินวงรี ลดแรงกระแทกเพื่อการออกกำลังกายที่ปลอดภัย

เครื่องเดินวงรีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดแรงกระแทกที่ข้อเข่าและข้อต่อ แต่ยังต้องการการออกกำลังกายที่ได้ผลดี เครื่องนี้ช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับการวิ่ง แต่ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพข้อต่อหรือผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย

การออกกำลังกายด้วยเครื่องเดินวงรียังช่วยฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนล่าง เช่น ต้นขาและน่อง พร้อมกับช่วยเพิ่มการทำงานของระบบหัวใจและปอด คุณสามารถปรับระดับความหนักของเครื่องให้เหมาะสมกับเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเผาผลาญไขมัน การเพิ่มความทนทาน หรือการฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บ

เครื่องกรรเชียงบก ออกกำลังกายครบทุกส่วนในเครื่องเดียว

เครื่องกรรเชียงบก (Rowing Machine) เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายทั้งร่างกายในเวลาเดียวกัน การใช้เครื่องนี้จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อส่วนบน เช่น ไหล่ แขน และหลัง พร้อมกับเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนล่าง เช่น ต้นขาและน่อง

นอกจากนี้ การกรรเชียงบกยังช่วยพัฒนาความทนทานของระบบหัวใจและหลอดเลือด และเป็นกิจกรรมที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้สูงถึง 300-400 แคลอรีในเวลาเพียง 30 นาที การตั้งเป้าหมายระยะเวลาการใช้งาน เช่น 15 นาทีสำหรับผู้เริ่มต้น และเพิ่มเป็น 30-45 นาทีสำหรับผู้มีประสบการณ์ จะช่วยให้คุณมองเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้น

เครื่องปั่นจักรยาน สร้างกล้ามเนื้อขาและเพิ่มความทนทานให้ร่างกาย

การปั่นจักรยานด้วยเครื่องจักรยานนั่งปั่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อขาและเพิ่มความทนทานของระบบหัวใจ และสามารถปรับระดับความหนืดให้เหมาะสมกับการเพิ่มความทนทานให้ร่างกายของคุณ

โดยคุณสามารถใช้เครื่องปั่นจักรยานในรูปแบบของการออกกำลังกายแบบ Interval Training เช่น การปั่นเร็ว 1 นาทีสลับกับปั่นช้า 2 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมัน หรือปั่นแบบต่อเนื่อง 20-30 นาทีสำหรับการเพิ่มความทนทาน 

อุปกรณ์ Outdoor Exercise ออกกำลังกายกลางแจ้งเปลี่ยนบรรยากาศ

การออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น วิ่งในสวนสาธารณะหรือ Outdoor Playground การใช้เครื่องออกกำลังกายใน Playground แบบนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการออกกำลังกาย ให้ความรู้สึกเหมือนคุณได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งช่วย ที่ให้ร่างกายได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างวิตามินดีในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้คุณรู้สึกสนุกกับการออกำลังกาย และไม่มองว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องน่าเบื่อ

ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน? ถึงจะเห็นผลชัดเจนที่สุด

สำหรับคำถามที่ว่า ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน? ถึงจะเห็นผลชัดเจนต่อร่างกายที่สุด คำตอบคือขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการออกกำลังกายของคุณ เช่น หากต้องการลดไขมัน การออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ด้วยกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญจะได้ผลดีที่สุด ในขณะที่การสร้างกล้ามเนื้ออาจต้องการความถี่ 4-6 วันต่อสัปดาห์ โดยเน้นการพักฟื้นกล้ามเนื้อให้เพียงพอ

ทั้งนี้อย่าลืมให้ความสำคัญกับการพักฟื้นและฟังสัญญาณของร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บในระหว่างการออกกำลังกาย แต่ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายใด การออกกำลังกายที่ถูกต้องและมีความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพที่ดีในระยะยาว

แนะนำ Maxnum Slat Treadmill ลู่วิ่งไฟฟ้าตัวช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ทุกวัน

หลังจากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่า ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละกี่วัน หากใครที่อยากลองเริ่มออกกำลังกายทุกวัน Maxnum Slat Treadmill ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบช่วยความแข็งแรงของขาและแกนกลางลำตัว นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันปรับแรงต้านที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายทั้งคาร์ดิโอและการฝึกความแข็งแรง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการออกกำลังกายทุกวันง่าย ๆ ที่บ้าน 

 

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพทั้งในด้านความทนทานและการพัฒนากล้ามเนื้อ Maxnum Slat Treadmill ลู่วิ่งดีไซน์ล้ำที่ให้คุณได้สัมผัสการออกกำลังกายระดับโปร ด้วย Sled Resistance ปรับได้ตั้งแต่เลเวล 5-36 มาพร้อมเซอร์โวมอเตอร์ทรงพลัง 2.5 HP ปรับความเร็วปรับได้ 1-22 กม./ชม. และเพิ่มความเข้มข้นในการฝึกซ้อมด้วยโหมดการปรับความชันได้ถึง 15 ระดับ พร้อมทุกความท้าทายเพื่อยกระดับการฝึกของคุณ! 

สั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า Maxnum Slat Treadmill ในราคาพิเศษ คลิกที่ลิงก์นี้ เพื่อสั่งซื้อได้ทันที

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!