
วิ่งเทรล เป็นการวิ่งที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการออกกำลังกายที่มีความท้าทายมากกว่าการวิ่งแบบทั่วไป แถมยังเป็นการทดสอบร่างกาย จิตใจ และยังต้องวางแผนในการซ้อมที่มากกว่า เมื่อเทียบกับการวิ่งทั่วไป ซึ่งเป็นการวิ่งตามเส้นทางที่มีพื้นผิวขรุขระ เช่น โคลน หิน ดิน อีกด้วย
สำหรับใครที่อยากเพิ่มความท้าทายในการวิ่งให้สนุก พร้อมได้ท่องเที่ยวไปในตัว บทความนี้ NBA Sportmanagement รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการ วิ่งเทรล (Trail Running) พร้อมวิธีเตรียมตัวเพื่อให้ลงสนามได้อย่างมั่นใจมาฝากกัน
วิ่งเทรล คือ การวิ่งแบบผจญภัยบนพื้นที่หรือบริเวณธรรมชาติ เช่น ป่า ภูเขา ซึ่งมีความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีความลาดชัน เส้นทางขรุขระ ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ โดยอาจจะเป็นโคลน หิน เนิน หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
โดยเส้นทางในการวิ่งเทรลนั้นมีความหลากหลายสูงมาก อาจเป็นได้ทั้งทางเดินดินในป่า, เส้นทางขึ้น-ลงภูเขา, ทางลูกรัง, หรือแม้กระทั่งเส้นทางที่มีลำธารเล็ก ๆ ตัดผ่าน หัวใจสำคัญของการวิ่งเทรลจึงไม่ใช่แค่การวิ่งเพื่อทำความเร็ว แต่คือการผสมผสานทักษะการวิ่งเข้ากับการผจญภัย การทรงตัว และการดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติรอบตัว

นอกเหนือจากความสนุกสนานและทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว การวิ่งเทรลให้ประโยชน์มากกว่าแค่การเผาผลาญแคลอรี่ แต่ยังช่วยเสริมสร้างร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งในแบบที่ไม่เหมือนใคร และนี่คือ 5 ประโยชน์ของการวิ่งเทรล ที่คุณต้องรู้
การวิ่งบนพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอของเส้นทางเทรล บังคับให้ร่างกายต้องใช้กล้ามเนื้อหลากหลายมัดมากกว่าการวิ่งบนทางเรียบ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ อย่าง กล้ามเนื้อแฮมสตริง และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) ที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาการทรงตัว ทำให้ร่างกายโดยรวมแข็งแรงขึ้น
การได้วิ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว เสียงของป่า และอากาศที่บริสุทธิ์ เป็นการบำบัดความเครียดที่ดีเยี่ยม ช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเส้นทางตรงหน้า ทำให้คุณลืมความวุ่นวายในชีวิตประจำวันไปได้ชั่วขณะ
โดยทั่วไปแล้ว พื้นดินหรือทางลูกรังในเส้นทางเทรลจะมีความนุ่มและยืดหยุ่นกว่าพื้นคอนกรีตหรือยางมะตอย ทำให้แรงกระแทกที่ส่งผลต่อข้อต่อต่าง ๆ เช่น ข้อเท้า เข่า และสะโพก ลดน้อยลง
เส้นทางเทรลเต็มไปด้วยอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รากไม้ ก้อนหิน หรือทางที่ลาดชัน ซึ่งบังคับให้นักวิ่งต้องมีสมาธิจดจ่อกับการก้าวเท้าและสภาพแวดล้อมตลอดเวลา เป็นการฝึกการทรงตัว การทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อและระบบประสาทได้เป็นอย่างดี
การวิ่งเทรลเปรียบเสมือนการออกไปผจญภัยในสถานที่ใหม่ ๆ คุณจะได้ค้นพบเส้นทางที่สวยงามที่คนทั่วไปอาจเข้าไม่ถึง เป็นการเพิ่มความสนุกและความท้าทายให้กับการวิ่ง ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายจำเจ เหมาะสำหรับคนที่วิ่งในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ มาจนเริ่มถึงจุดอิ่มตัว และอยากออกไปหาความท้าทายใหม่ ๆ ในการวิ่ง

สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้น แต่ไม่รู้จะจัดตารางซ้อมอย่างไร ลองนำตาราง 1 สัปดาห์นี้ไปปรับใช้ได้เลย โดยหัวใจสำคัญคือการสร้างความคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย ไม่ใช่การเน้นความเร็ว
จากนั้นเมื่อครบ 1 สัปดาห์ก็ให้วนทำตามโปรแกรมซ้อมวิ่งเทรลนี้ ต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์แล้วค่อบปรับเปลี่ยนระดับความท้าทายหรือวันในการซ้อมวิ่งเทรล ตามความสามารถของร่างกายคุณ

นี่คือคำถามยอดฮิตสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่กำลังสนใจการวิ่งเทรล ซึ่งแตกต่างจากการวิ่งมาราธอนที่มักจะวัดผลกันด้วยระยะทางและเวลาเป็นหลัก
ในการวิ่งเทรลนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าต้องวิ่งระยะทางเท่าไหร่ สนามแข่งขันเทรลมีตั้งแต่ระยะสั้นๆ 10-15 กิโลเมตร ไปจนถึงระยะไกลระดับอัลตร้ามาราธอน 100 กิโลเมตรขึ้นไป สำหรับมือใหม่ ขอแนะนำให้เริ่มต้นจากระยะทางสั้น ๆ เช่น 3-5 กิโลเมตร ในเส้นทางที่ไม่ยากลำบากจนเกินไป และให้ความสำคัญกับ Pace และ เวลาที่ใช้ในการวิ่ง (Time on Feet) มากกว่าระยะทาง เพราะการวิ่งเทรล 5 กิโลเมตรอาจใช้เวลาและความเหนื่อยมากกว่าการวิ่งบนถนน 10 กิโลเมตรก็เป็นได้
แม้ว่าการวิ่งเทรลจะเต็มไปด้วยความสนุก แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากกว่าการวิ่งตามสวนสาธารณะ การเตรียมตัวและทราบถึงข้อควรระวังต่างๆ จะช่วยให้คุณวิ่งได้เทรลได้อย่างปลอดภัยโดยสำหรับนักวิ่งเทรลมือใหม่ควรใส่ใจกับข้อควรระวังต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การวิ่งเทรลเป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายขีดจำกัดของร่างกายและจิตใจ พร้อมเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด การทำความเข้าใจว่า วิ่งเทรล คืออะไร และเตรียมตัวรับมือกับความท้าทายอย่างรอบคอบ จะทำให้ทุกการวิ่งของคุณเต็มไปด้วยความสนุกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
หากตอนนี้คุณกำลังสนใจอยากซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้งานที่บ้าน เพื่อใช้ซ้อมการวิ่งเทรลของคุณ แบบไม่ต้องไปซ้อมจริงที่ป่า ภูเขา NBA Sportmanagement ขอแนะนำลู่วิ่งไฟฟ้าเกรดฟิตเนส MAXNUM X9000 ลู่วิ่งที่ “คิด” เพื่อการออกกำลังกายของคุณจริง ๆ มาพร้อมฟังก์ชันสำหรับสายวิ่งตัวจริง ปรับความชันได้สูงสุดถึง 15 ระดับ เหมือนวิ่งขึ้นเขาจริง ๆ และฟังก์ชันวัด Body Fat ที่สามารถประเมินค่า BMI และมวลไขมันในร่างกายได้ในลู่วิ่งตัวเดียว
จัดเต็มกว่าเดิม ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบ จบในตัวเดียว คุณภาพเทียบเท่าลู่วิ่งไฟฟ้าเกรดฟิตเนส

ถึงเวลาเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นฟิตเนสส่วนตัว และทำให้คุณซ้อมวิ่งเทรลได้ที่บ้านแบบง่าย ๆ สนใจสั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า MAXNUM X9000 Commercial Treadmill เพื่อช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรง คลิกที่นี่เลย หรือแอด LINE ID: @maxnumfitness
ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ