วิ่งเทรล คืออะไร? แจกเทคนิคการซ้อมฉบับมือใหม่ทำตามได้

วิ่งเทรล เป็นการวิ่งที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการออกกำลังกายที่มีความท้าทายมากกว่าการวิ่งแบบทั่วไป แถมยังเป็นการทดสอบร่างกาย จิตใจ และยังต้องวางแผนในการซ้อมที่มากกว่า เมื่อเทียบกับการวิ่งทั่วไป ซึ่งเป็นการวิ่งตามเส้นทางที่มีพื้นผิวขรุขระ เช่น โคลน หิน ดิน อีกด้วย

สำหรับใครที่อยากเพิ่มความท้าทายในการวิ่งให้สนุก พร้อมได้ท่องเที่ยวไปในตัว บทความนี้ NBA Sportmanagement รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการ วิ่งเทรล (Trail Running) พร้อมวิธีเตรียมตัวเพื่อให้ลงสนามได้อย่างมั่นใจมาฝากกัน

วิ่งเทรล คืออะไร? รู้จักการรูปแบบการวิ่งที่กำลังมาแรง

วิ่งเทรล คือ การวิ่งแบบผจญภัยบนพื้นที่หรือบริเวณธรรมชาติ เช่น ป่า ภูเขา ซึ่งมีความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีความลาดชัน เส้นทางขรุขระ ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ โดยอาจจะเป็นโคลน หิน เนิน หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

โดยเส้นทางในการวิ่งเทรลนั้นมีความหลากหลายสูงมาก อาจเป็นได้ทั้งทางเดินดินในป่า, เส้นทางขึ้น-ลงภูเขา, ทางลูกรัง, หรือแม้กระทั่งเส้นทางที่มีลำธารเล็ก ๆ ตัดผ่าน หัวใจสำคัญของการวิ่งเทรลจึงไม่ใช่แค่การวิ่งเพื่อทำความเร็ว แต่คือการผสมผสานทักษะการวิ่งเข้ากับการผจญภัย การทรงตัว และการดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติรอบตัว

วิ่งเทรล คืออะไร

ประโยชน์ของการวิ่งเทรล มีอะไรบ้าง ?

นอกเหนือจากความสนุกสนานและทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว การวิ่งเทรลให้ประโยชน์มากกว่าแค่การเผาผลาญแคลอรี่ แต่ยังช่วยเสริมสร้างร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งในแบบที่ไม่เหมือนใคร และนี่คือ 5 ประโยชน์ของการวิ่งเทรล ที่คุณต้องรู้

1. เสริมสร้างกล้ามเนื้อทุกส่วน

การวิ่งบนพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอของเส้นทางเทรล บังคับให้ร่างกายต้องใช้กล้ามเนื้อหลากหลายมัดมากกว่าการวิ่งบนทางเรียบ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ อย่าง กล้ามเนื้อแฮมสตริง และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) ที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาการทรงตัว ทำให้ร่างกายโดยรวมแข็งแรงขึ้น

2. ดีต่อสุขภาพจิต ลดความเครียด

การได้วิ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว เสียงของป่า และอากาศที่บริสุทธิ์ เป็นการบำบัดความเครียดที่ดีเยี่ยม ช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเส้นทางตรงหน้า ทำให้คุณลืมความวุ่นวายในชีวิตประจำวันไปได้ชั่วขณะ

3. ลดแรงกระแทก ถนอมข้อต่อ

โดยทั่วไปแล้ว พื้นดินหรือทางลูกรังในเส้นทางเทรลจะมีความนุ่มและยืดหยุ่นกว่าพื้นคอนกรีตหรือยางมะตอย ทำให้แรงกระแทกที่ส่งผลต่อข้อต่อต่าง ๆ เช่น ข้อเท้า เข่า และสะโพก ลดน้อยลง

4. พัฒนาการทรงตัวและสมาธิ

เส้นทางเทรลเต็มไปด้วยอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รากไม้ ก้อนหิน หรือทางที่ลาดชัน ซึ่งบังคับให้นักวิ่งต้องมีสมาธิจดจ่อกับการก้าวเท้าและสภาพแวดล้อมตลอดเวลา เป็นการฝึกการทรงตัว การทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อและระบบประสาทได้เป็นอย่างดี

5. เปิดประสบการณ์และการผจญภัย

การวิ่งเทรลเปรียบเสมือนการออกไปผจญภัยในสถานที่ใหม่ ๆ คุณจะได้ค้นพบเส้นทางที่สวยงามที่คนทั่วไปอาจเข้าไม่ถึง เป็นการเพิ่มความสนุกและความท้าทายให้กับการวิ่ง ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายจำเจ เหมาะสำหรับคนที่วิ่งในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ มาจนเริ่มถึงจุดอิ่มตัว และอยากออกไปหาความท้าทายใหม่ ๆ ในการวิ่ง

ตัวอย่างตารางซ้อมวิ่งเทรล 1 สัปดาห์ ทำตามได้ง่าย ๆ สำหรับมือใหม่

สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้น แต่ไม่รู้จะจัดตารางซ้อมอย่างไร ลองนำตาราง 1 สัปดาห์นี้ไปปรับใช้ได้เลย โดยหัวใจสำคัญคือการสร้างความคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย ไม่ใช่การเน้นความเร็ว

  • วันจันทร์ - วันพัก (Rest Day) : พักผ่อน ให้ร่างกายได้ฟื้นตัวเต็มที่
  • วันอังคาร - วิ่งเบาๆ (Easy Run) : วิ่งโซน 2 เหยาะ ๆ บนทางเรียบ 20-30 นาที ไม่ต้องสนใจความเร็ว เน้นให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • วันพุธ - ฝึกความแข็งแรง (Strength Training) : ออกกำลังกายแบบ Bodyweight ที่บ้าน เน้นสร้างความแข็งแรงให้ขาและแกนกลางลำตัว เช่น Squat, Lunges, Plank ท่าละ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10-15 ครั้ง
  • วันพฤหัสบดี - ซ้อมทางชัน (Hill Practice) : ใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับความชันได้เกิน 10 ระดับ ฝึกเดินชันขึ้นเนิน แนะนำให้เดินหรือวิ่งติดต่อ15-20 นาที เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับทางชัน
  • วันศุกร์ - วันพัก (Rest Day) : พักผ่อนก่อนวันซ้อมยาวสุดสัปดาห์
  • วันเสาร์ - วิ่ง/เดินบนเทรล (Trail Run/Walk) : วันสำคัญ! ออกไปหาเส้นทางเทรลใกล้บ้าน หรือสวนสาธารณะที่มีทางดิน ตั้งเป้าหมายเวลาไว้ที่ 45-60 นาที ใช้วิธีวิ่งสลับเดินตามความรู้สึก (เหมือนซ้อมวิ่ง Interval) ช้าสลับเร็วไม่ต้องฝืนวิ่งตลอดทาง
  • วันอาทิตย์ - ฟื้นฟูร่างกาย (Active Recovery) : เดินเล่นสบาย ๆ หรือวิ่งจ๊อกกิ้ง 30-40 นาทีด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า หรือยืดเหยียดเบา ๆ เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อยังคงคุ้นชินกับการออกกำลังกาย 

จากนั้นเมื่อครบ 1 สัปดาห์ก็ให้วนทำตามโปรแกรมซ้อมวิ่งเทรลนี้ ต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์แล้วค่อบปรับเปลี่ยนระดับความท้าทายหรือวันในการซ้อมวิ่งเทรล ตามความสามารถของร่างกายคุณ

ตารางซ้อมวิ่งเทรล

วิ่งเทรล ต้องวิ่งกี่กิโล ? ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย

นี่คือคำถามยอดฮิตสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่กำลังสนใจการวิ่งเทรล ซึ่งแตกต่างจากการวิ่งมาราธอนที่มักจะวัดผลกันด้วยระยะทางและเวลาเป็นหลัก

ในการวิ่งเทรลนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าต้องวิ่งระยะทางเท่าไหร่ สนามแข่งขันเทรลมีตั้งแต่ระยะสั้นๆ 10-15 กิโลเมตร ไปจนถึงระยะไกลระดับอัลตร้ามาราธอน 100 กิโลเมตรขึ้นไป สำหรับมือใหม่ ขอแนะนำให้เริ่มต้นจากระยะทางสั้น ๆ เช่น 3-5 กิโลเมตร ในเส้นทางที่ไม่ยากลำบากจนเกินไป และให้ความสำคัญกับ Pace และ เวลาที่ใช้ในการวิ่ง (Time on Feet) มากกว่าระยะทาง เพราะการวิ่งเทรล 5 กิโลเมตรอาจใช้เวลาและความเหนื่อยมากกว่าการวิ่งบนถนน 10 กิโลเมตรก็เป็นได้

ข้อควรระวังในการวิ่งเทรล มีอะไรบ้าง?

แม้ว่าการวิ่งเทรลจะเต็มไปด้วยความสนุก แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากกว่าการวิ่งตามสวนสาธารณะ การเตรียมตัวและทราบถึงข้อควรระวังต่างๆ จะช่วยให้คุณวิ่งได้เทรลได้อย่างปลอดภัยโดยสำหรับนักวิ่งเทรลมือใหม่ควรใส่ใจกับข้อควรระวังต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ศึกษาเส้นทางและสภาพอากาศ: ก่อนออกวิ่ง ควรตรวจสอบเส้นทางให้แน่ใจว่ามีความยากง่ายระดับไหน และเช็คพยากรณ์อากาศเสมอ เพราะสภาพอากาศบนภูเขาเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว
  • เลือกรองเท้าให้เหมาะสม: ควรลงทุนซื้อ "รองเท้าวิ่งเทรล" โดยเฉพาะ เพราะรองเท้าประเภทนี้จะมีดอกยางที่ลึกและเกาะพื้นผิวได้ดีกว่ารองเท้าวิ่งทั่วไป สามารถป้องกันการลื่นล้มได้ดีกว่ารองเท้าวิ่งรูปแบบอื่น ๆ 
  • เตรียมน้ำและพลังงานให้พร้อม: การวิ่งเทรลใช้พลังงานสูงและอาจไม่มีร้านค้าตลอดเส้นทาง ควรพกพาน้ำดื่มและเจลให้พลังงานหรืออาหารว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีไขมันดีติดตัวไปด้วยเสมอ
  • ควรวิ่งกับกลุ่มเพื่อนอยู่เสมอ: เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะมือใหม่ ไม่ควรไปวิ่งเทรลในป่าคนเดียว หรืออย่างน้อยควรแจ้งเพื่อนหรือครอบครัวให้ทราบว่าจะไปวิ่งที่ไหนและจะกลับเมื่อไหร่ 
  • อย่าฝืนร่างกาย: การวิ่งขึ้นเนินชันเป็นเรื่องปกติของการวิ่งเทรล ให้สลับมาเดินเร็วแทนการฝืนวิ่งตลอดทาง เพื่อรักษาพลังงานไว้
  • ระวังการก้าวเท้า: มีสมาธิกับเส้นทางเสมอ ระวังรากไม้ ก้อนหิน หรือพื้นผิวที่อาจทำให้สะดุดหรือข้อเท้าพลิกได้

สรุปทั้งหมดเกี่ยวกับการวิ่งเทรล

การวิ่งเทรลเป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายขีดจำกัดของร่างกายและจิตใจ พร้อมเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด การทำความเข้าใจว่า วิ่งเทรล คืออะไร และเตรียมตัวรับมือกับความท้าทายอย่างรอบคอบ จะทำให้ทุกการวิ่งของคุณเต็มไปด้วยความสนุกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

ซ้อมวิ่งเทรลได้ที่บ้านแบบไม่ต้องเข้าป่า ขึ้นเขา ด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า MAXNUM X9000 

หากตอนนี้คุณกำลังสนใจอยากซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้งานที่บ้าน เพื่อใช้ซ้อมการวิ่งเทรลของคุณ แบบไม่ต้องไปซ้อมจริงที่ป่า ภูเขา NBA Sportmanagement ขอแนะนำลู่วิ่งไฟฟ้าเกรดฟิตเนส MAXNUM X9000 ลู่วิ่งที่ “คิด” เพื่อการออกกำลังกายของคุณจริง ๆ มาพร้อมฟังก์ชันสำหรับสายวิ่งตัวจริง ปรับความชันได้สูงสุดถึง 15 ระดับ เหมือนวิ่งขึ้นเขาจริง ๆ และฟังก์ชันวัด Body Fat ที่สามารถประเมินค่า BMI และมวลไขมันในร่างกายได้ในลู่วิ่งตัวเดียว 

จัดเต็มกว่าเดิม ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบ จบในตัวเดียว คุณภาพเทียบเท่าลู่วิ่งไฟฟ้าเกรดฟิตเนส

  • พื้นที่วิ่งกว้างขวาง ปลอดภัยทุกย่างก้าว: มาพร้อมสายพานขนาดใหญ่ถึง 162 x 60 ซม. และรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 160 กก. มอบพื้นที่ให้คุณวิ่งได้อย่างมั่นใจ โฟกัสกับการจัดระเบียบร่างกายได้อย่างเต็มที่
  • มอเตอร์ทรงพลัง ตอบสนองทุกความเร็ว: ด้วยมอเตอร์ AC ขนาด 6 แรงม้า สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 25 กม./ชม. ไม่ว่าคุณจะวิ่งเพื่อสุขภาพ, ซ้อมมาราธอน หรือแม้แต่ไตรกีฬา ก็ตอบโจทย์ได้เต็มร้อย
  • ติดตามผลลัพธ์ทุกก้าว: หน้าจอแสดงผลแบบ LED Dot-Matrix ที่คมชัด พร้อมฟังก์ชันวัดค่า BMI ช่วยให้คุณอ่านข้อมูลการวิ่งและประเมินผลร่างกายได้ทันที เพื่อปรับแผนการซ้อมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ฟังก์ชันครบครัน: เพิ่มความเพลิดเพลินด้วยระบบเชื่อมต่อ USB  พร้อมพัดลมในตัวที่ช่วยระบายความร้อน ให้ทุกนาทีบนลู่วิ่งเต็มไปด้วยความสบาย
  • จดจำโปรไฟล์ผู้ใช้ได้ถึง 3 คน: เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยฟังก์ชันจดจำการตั้งค่าเฉพาะตัว ทำให้สลับการใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
  • มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล: ผ่านการรับรอง มาตรฐาน EN957 การันตีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน ให้คุณมั่นใจและปลอดภัยในทุกครั้งที่ใช้งาน

ถึงเวลาเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นฟิตเนสส่วนตัว และทำให้คุณซ้อมวิ่งเทรลได้ที่บ้านแบบง่าย ๆ  สนใจสั่งซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า MAXNUM X9000 Commercial Treadmill เพื่อช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรง คลิกที่นี่เลย หรือแอด LINE ID: @maxnumfitness

ต้องการเปิดฟิตเนส?

ให้เราช่วยบอกคุณว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้ได้กำไรเข้าธุรกิจยิมของคุณให้ได้มากและเร็วที่สุด เราให้คำปรึกษาฟรีที่เหมาะกับขนาดพื้นที่และงบประมาณ

ปรึกษาฟรี!